ทำไมต้องใช้เทอร์โมสแกน?
หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อเรียกกล้องถ่ายภาพความร้อนแตกต่างกันไป เช่น Thermoscan, Thermal Image, Thermo Graphy เป็นต้น และคงทราบถึงวัตถุประสงค์การใช้งานของกล่องถ่ายภาพความร้อนกันเป็นอย่างดีแล้ว แต่โดยส่วนใหญ่มักเกิดคำถามว่า “กล้องถ่ายภาพความร้อนมีราคาแพง ทำไมต้องใช้ ?”
ราคาของเครื่องถ่ายภาพความร้อนในปัจจุบันมีตั้งแต่หลักหมื่นปลาย ๆ ไปจนถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของแต่ละเครื่อง ซึ่งอาจจะทำให้หลายท่านต้องสะดุ้งเมื่อได้ทราบราคาเครื่อง แต่ในทางกลับกันราคาของเครื่องเมื่อเทียบกับการป้องกันการสูญเสียในธุรกิจของท่านอาจจะเป็นสัดส่วนที่น้อยมาก คนส่วนใหญ่จะคิดว่ากล้องถ่ายภาพความร้อนนั้นมีไว้ตรวจเช็คอุณหภูมิที่เกิดจากความผิดปกติของอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องจักรเท่านั้นแต่จริง ๆ แล้ว กล้องถ่ายภาพความร้อนยังสามารถนำมาใช้ในการวางแผนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการผลิตลดระยะเวลา Down Time ของเครื่องจักรลงได้ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหลักในการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มผลกำไรนั่นเอง
8 เหตุผลที่ต้องใช้เครื่องถ่ายภาพความร้อน
1. ลดปัญหาเครื่องจักรหยุดทำงาน หากมีการตรวจเช็คอุณหภูมิอย่างสม่ำเสมอก็สามารถหาทางแก้ไขได้ล่วงหน้าลดความเสี่ยงโดยไม่ต้องรอให้เครื่องจักรเสียก่อนจึงค่อยแก้ไข
2. ช่วยประหยัดพลังงาน ปัญหาความร้อนที่เกิดขึ้นเพราะใช้งานเกินกำลังที่อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเครื่องจักรจะสามารถรับไหวนั้น นอกจากจะเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยแล้ว ยังก่อให้เกิดการสูญเสียพลังงานโดยใช่เหตุด้วยเพราะเครื่องต้องทำงานหนักทำให้สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้า
3. ช่วยวางแผนการเก็บสต๊อกอะไหล่ กล้องถ่ายภาพความร้อนสามารถช่วยให้ท่านเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นในระบบไฟฟ้า หรือเครื่องจักรในด้านอุณหภูมิ ทำให้ท่านสามารถเฝ้าระวังได้ถูกจุดว่าควรจะเก็บสต๊อกอะไหล่ตัวใดที่มักจะเกิดปัญหาบ่อยครั้ง สามารถซ่อมแซมได้ทันที ไม่ต้องรอให้เกิด Down Time เสียก่อน
4. ช่วยในการวางแผนซ่อมบำรุง สามารถนำข้อมูลไปเป็นส่วนพิจารณาในการวางแผนซ่อมบำรุงเพื่อกำหนดช่วงระยะเวลาในการซ่อมบำรุง การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) เป็นงานที่มีความสำคัญมาก เพราะอุปกรณ์ไฟฟ้าเปรียบเสมือนหัวใจหลักของโรงงาน/อาคาร ช่วยจัดลำดับความเร่งด่วนในการซ่อมบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
5. นำข้อมูลมาวิเคราะห์ย้อนหลังได้ โดยทั่วไปกล้องถ่ายภาพความร้อนจะมี Software สำหรับใช้เก็บบันทึกข้อมูลในการวัด ซึ่งทำให้สะดวกแก่ผู้ใช้งานในการนำข้อมูลที่ได้กลับมาวิเคราะห์ถึงความผิดพลาดและหาทางป้องกัน
6. ยืดอายุการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักร หมั่นตรวจเช็คโดยใช้กล้องถ่ายภาพความร้อนของอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักรอย่างสม่ำเสมอ ช่วยให้ท่านหาจุดปกพร่องได้ตรงจุดเช่นขั้วต่อสายไม่เน้น, ใช้สายไฟขนาดเล็กเกินไป หรืออายุการใช้งานของเบรกเกอร์ถึงระยะเวลาต้องเปลี่ยนใหม่แล้ว ซึ่งส่วนย่อย ๆ เหล่านี้ก็มีผลทำให้เกิดการเสียหายลุกลามไปถึงตัวเครื่องจักร หรือระบบไฟฟ้าที่มีราคาสูงได้
7. เพิ่มประสิทธิภาพในการซ่อมบำรุง เนื่องมาจากการวางแผนซ่อมบำรุงที่ดี
8. ป้องกันการเกิดอัคคีภัย ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดอัคคีภัยอันเนื่องจากไฟฟ้าลัดวงจร
การซื้อสินค้าราคาถูกอาจจะไม่ได้คุณภาพตามความต้องการ แต่การซื้อสินค้าแพงก็ไม่ได้หมายความว่าจะตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งหมด การพิจาณาเลือกซื้อเพื่อมาใช้ให้ตรงกับงานของท่านก็เป็นสิ่งสำคัญ ปัญหาของระบบไฟฟ้าหากเกิดขึ้นแล้วมีแนวทางในการป้องกันได้ก็สามารถสร้างความอุ่นใจให้กับธุรกิจของท่านได้