สวัสดีคุณผู้อ่านที่รักทุกท่านครับ นี่ก็เหลือเวลาอีกเพียงแค่เพียงเดือนเดียวเท่านั้นเอง ที่เราจะเข้าสู่การเปลี่ยนผ่านจากปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ ปกติของเดือนแห่งการสิ้นปีแบบนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ผลของการสำรวจบอกว่า คนไทยทุกคนมีค่าดัชนีความสุขสูงที่สุดของปี เนื่องจากอีกไม่กี่วันข้างหน้าเราก็จะได้มีโอกาสเฉลิมฉลองและเริ่มเข้าสู่เทศกาลปีใหม่กันอีกแล้ว แต่ดูเหมือนว่าปีนี้ดัชนีความสุขของคนในประเทศคงจะลดน้อยถอยลงไปมาก เนื่องจากที่ผ่านมาคนไทยทั้งประเทศได้ผ่านความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่อันหาค่ามิได้ นั่นก็คือการเสด็จสวรรคตขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา วันที่ถูกจารึกในประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทย
จากนี้ไปแม้ว่าความเศร้าโศกเสียใจอันเกิดจากความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของคนไทยนั้น จะเป็นห้วงเวลาที่ดูยาวนานในความรู้สึกก็ตาม แต่การระลึกถึงแนวทางการทำงาน การใช้ชีวิตของพระองค์ท่านก็ควรจะติดอยู่ในหัวใจคนไทยไปอีกตราบนานเท่านาน เพราะตลอดระยะเวลาที่พระองค์ทรงครองราชย์อย่างยาวนานที่สุดในโลกถึง 70 ปีนั้น ยังประโยชน์ให้กับแผ่นดินไทยอย่างหาที่สุดมิได้ นับเป็น 70 ปีที่พสกนิกรชาวไทยได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีแห่งการเถลิงถวัลย์สิริราชสมบัติด้วยความอยู่เย็นเป็นสุข ดังพระปฐมบรมราชโองการ ‘เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม’ อย่างที่ไม่มีใครสามารถปฏิเสธได้ แม้สังคมไทยจะผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านวิกฤตการณ์ต่าง ๆ มามากมายเพียงใดก็ตาม ดังนั้นสิ่งที่พวกเราจะทำให้พระองค์ท่านได้นับจากนี้คือ การตั้งมั่นในการทำหน้าที่ของตนอย่างสมบูรณ์ เปลี่ยนความเศร้าโศกให้เป็นพลังอันยิ่งใหญ่ในการทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นตามรอยเบื้องพระยุคลบาท เพราะนั่นคือสิ่งที่พระองค์อยากให้มี อยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทย สำคัญกว่าสิ่งอื่นใดคือต้องมีความรักสามัคคีกัน พยายามที่จะสนับสนุนเกื้อกูลสิ่งที่ดีให้ประเทศนี้ อันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่านตลอดไป
ความโชคดีที่สุดของคนไทยอย่างหนึ่ง นอกจากการที่เราได้ดำรงชีวิตอยู่บนผืนประเทศที่เป็นเอกราชแล้ว ผืนแผ่นดินแห่งนี้ยังไม่เคยไร้พระเจ้าแผ่นดินครับ เพราะบัดนี้รัชสมัยของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร พระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 10 ก็ได้เริ่มขึ้นแล้วอย่างสมบูรณ์ นับตั้งแต่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ได้ทรงเสด็จสวรรคตลง ทั้งนี้ก็เพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เป็นขวัญและกำลังใจแก่พสกนิกรชาวไทยสืบเนื่องต่อไป
แม้บรรยากาศของคนไทยขณะนี้ จะยังคงซึมเศร้าเพียงใดก็ตาม แต่ในโลกแห่งความจริง เราก็ยังต้องเดินหน้าสู้ชีวิตกันต่อไปไม่ว่าจะเป็นภาคส่วนใดก็ตาม เพื่อขับเคลื่อนให้ประเทศชาติยังคงมีความเข้มแข็งต่อไป ดำเนินแนวทางชีวิตด้วยหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของ รัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นแนวคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ทุกอาชีพการงาน ด้วยหลัก 3 ประการคือ พอประมาณ มีเหตุมีผล และมีภูมิคุ้ม โดยต้องปฏิบัติควบคู่กับความรู้และคุณธรรมด้วย ซึ่งพระองค์ทรงเปรียบปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเหมือนดังเสาเข็ม บ้านเมืองถ้าจะให้มั่นคงต้องมีเสาเข็ม แต่เสาเข็มอยู่ใต้ดินเพราะฉะนั้นจะไม่มีใครเห็น จะลืมเกี่ยวกับบทบาทของเสาเข็ม ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงก็เหมือนเสาเข็มที่เป็นรากฐานแห่งความมั่นคง แต่มองไม่เห็น ถ้าพื้นฐานคนไม่มีความอยู่ดีกินดีตามอัตภาพแล้ว ไปสร้างอะไรที่ใหญ่โตบนสิ่งที่ไม่มีพื้นฐานมั่นคงจะล้มลงมาง่ายนั่นเอง
และเนื่องในโอกาสอันใกล้ปีใหม่นี้ ทีมงานก็ขอเป็นกำลังใจให้ผู้อ่านทุกท่านใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาทครับ ประเมินสถานะของตนเองและสถานการณ์ของบ้านเมืองให้ดี ตั้งอยู่ในความพอเพียง ไม่ใช้จ่ายเกินตัว และดังเช่นทุกปีครับ เนื่องในโอกาสปีใหม่ที่กำลังจะมาเยือน ซึ่งเป็นโอกาสดีที่เราจะได้หยุดพักผ่อนทำกิจกรรมกับครอบครัวเพื่อเติมพลังให้กับชีวิต หวังกลับมาต่อสู้กับงานหนักที่รออยู่ในปีหน้า และหลายท่านคงจะมีการตั้งเป้าหมายที่จะเริ่มทำอะไรบางอย่างที่ดีให้กับชีวิต หรือกำลังคาดหวังว่าการดำเนินงานจะราบรื่น ไม่มีอุปสรรค บางท่านก็คาดหวังว่าจะมีความเจริญก้าวหน้ามากขึ้นทั้งในชีวิตส่วนตัวและหน้าที่การงาน ผมก็ขอใช้พื้นที่ส่วนนี้อวยพรให้ท่านทั้งหลายประสบแต่ความสำเร็จทั้งในสิ่งที่คาดหวังและวางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหน้าที่การงาน การเงิน สุขภาพหรือการดำเนินชีวิต ก็ขอให้ทุกท่านมีความสุขตลอดปี...บุญรักษาครับ
เศรษฐกาญจน์ อนุวัตรวงศ์
sedthakarn@se-ed.com