พิทักษ์ ศุภบัณฑิตย์กุล
“มีเพื่อนคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องนักกีฬาในทีมที่มีความสามารถดีแต่มักจะแสดงอาการไม่พอใจเพื่อนร่วมทีมบ่อย ๆ สืบสาวราวเรื่องได้ว่าเป็นคนที่มีความสามารถสูงเลยกลายเป็นคนที่รับหน้าที่หนักในทีม เลยกลายเป็นว่าเขามีความกดดันและเหนื่อยหนักกว่าคนอื่น”
|
คำว่าทีมหมายถึงการทำงานร่วมกันดังนั้นเมื่อไรที่เราอยู่ในทีมย่อมหมายความถึงการทำงานที่ต้องแบ่งหน้าที่ภาระความรับผิดชอบร่วมกัน ไม่ได้หมายถึงว่าคนใดคนหนึ่งต้องทำหน้าที่แทนทีมแต่อาจเป็นการทำงานที่รับหน้าที่สำคัญซึ่งเพื่อนร่วมทีมอาจทำได้ไม่ดีพอ และต้องไม่ลืมคำว่า "ทีม” ซึ่งจะช่วยเตือนให้เราทราบว่า “หน้าที่อื่น ๆ ในทีมก็สำคัญเช่นกัน” ภาระหรือหน้าที่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะบ่งบอกถึงหน้าที่ที่ต้องทำอย่างดีที่สุด
ความสามารถที่เยี่ยมยอดมาสู่ความรับผิดชอบที่สำคัญ
เมื่อไรที่ทีมงานต้องทำหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมายย่อมต้องมีจอมทัพที่จะนำพาทีมสู้กับงานและอุปสรรคต่าง ๆ ซึ่งเรามักจะมองจอมทัพว่าเป็นระดับผู้บริหารมากกว่าพนักงานด้วยกัน แต่อย่าลืมว่าองค์กรบางประเภทงานจำเป็นต้องมีผู้บริหารที่เก่งทั้งเรื่องของทักษะการทำงานและการบริหาร เช่นกันกับบางองค์กรที่อาจมีผู้บริหารที่ถนัดวางนโยบายมากกว่าจึงจำเป็นที่จะต้องมีจอมทัพที่จะลงไปลุยกับงานร่วมกันกับเพื่อนร่วมทีม
ความสามารถของพนักงานบางคนที่สูงก็จะนำสู่การรับหน้าที่สำคัญ เช่น หัวหน้าแผนกต่าง ๆ หรือระดับผู้จัดการ ดังนั้นหากถามว่าระดับหัวหน้างานต้องทำงานหนักมากและต้องแบกรับภาระหนักมากจริงหรือไม่ คำตอบก็คือ จริง แต่เราทำงานเป็นทีม การแบ่งหน้าที่ตามความสามารถก็เป็นตัวช่วยสร้างความสำเร็จด้วยมิใช่เป็นหน้าที่ของระดับหัวหน้างานเพียงคนใดคนหนึ่ง ซึ่งความสามารถที่ยอดเยี่ยมของหัวหน้างานนั้นจึงนำมาสู่ความรับผิดชอบที่สำคัญ ต้องช่วยดูช่วยชี้แนะให้เพื่อนร่วมงานได้ทำงานให้สำเร็จและคอยแก้ไขให้กับจุดที่เกิดปัญหา นี่คือคุณค่าของคนที่เก่งงาน ทำงานได้ดี ซึ่งก็ไม่ควรมองข้ามเรื่องของการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนร่วมงาน หัวหน้าบางคนทำงานหนักจนลืมไปว่าเรากำลังทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมแต่ไปคิดเรื่องภาระที่หนักมากต้องมาปวดหัวกับเพื่อนร่วมงานที่ต้องคอยแก้ไขปัญหาให้บ่อย ๆ หงุดหงิด รำคาญเมื่อเพื่อนร่วมงานร้องขอความช่วยเหลือ นานวันเข้าก็กลายเป็นความขัดแย้ง
Team building ปรับความคิดให้เข้าใจ “ทีมงาน”
เป็นเรื่องธรรมดาที่คนมีความสามารถจะได้รับหน้าที่ที่สำคัญ และการรับหน้าที่สำคัญก็ย่อมหมายความถึงว่าเขาคือส่วนหนึ่งของทีม “ไม่ใช่เขาคือทั้งหมดของทีม” หน้าที่ความรับผิดชอบที่จะนำพาสู่ความสำเร็จจึงย่อมที่จะต้องอาศัยความสามารถของทีมงานด้วยจึงจะก่อให้เกิดความสำเร็จขึ้นได้ คำว่า “ทีมงาน” จึงต้องนำมาสร้างความเข้าใจและสร้างทัศนะคติที่ดีของทีมงาน ต้องมาละลายความคิดแง่ลบกันหันมาโน้มน้าวจิตใจซึ่งกันและกันเพื่อให้มาทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข มีจิตสาธารณะที่คอยช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ และที่สำคัญคือความเข้าใจหน้าที่ของตัวเองอย่างชัดเจนและพร้อมที่จะสานต่อการทำงานในองค์กรเช่นเดียวกับเฟืองจักรสำคัญทุกชิ้นไม่ว่าจะเป็นเฟืองเล็กหรือใหญ่ที่ทำหน้าที่ประสานกันอย่างเป็นระบบ
พนักงานที่มีความคิดว่าเขาต้องแบกรับหน้าที่สำคัญไว้และมองว่ามันหนักเกินไปเขาจะเหนื่อยมากและกดดัน บางครั้งเขาอาจจะพลาดได้หมดกำลังใจได้ ผู้บริหารจึงควรสร้างความเข้าใจในการทำงานให้เขา ดึงส่วนดี ๆ ในความคิดเขาออกมาและนำความรู้สึกดี ๆ ของเพื่อนร่วมงานเติมเต็มในความคิดในแง่ลบของเขาที่มองเพื่อนร่วมงานที่มีความสามารถน้อยกว่าว่าพวกเขาไม่ใช่ภาระหน้าที่ที่เขาต้องคอยเข้าไปช่วยเหลือ นั่นก็คือการย้ำเตือนถึงหน้าที่ความรับผิดชอบที่มันเกิดขึ้นจากความสามารถที่ยอดเยี่ยมของเขา เขาคือคนสำคัญของทีมที่เป็นขวัญเป็นกำลังใจให้เพื่อนร่วมงาน แต่งานจะสำเร็จได้ย่อมต้องช่วยกันทำและต้องทำตามหน้าที่ ทีมงานทุกคนก็มุ่งมั่นทำงานตามหน้าที่ของตนโดยมีหัวหน้าทีมที่คอยนำทาง ประคับประคองและคอยช่วยเหลือจุดอ่อนให้กลับมาแข็งแกร่ง ทีมที่ดีย่อมต้องอาศัยผู้นำทีมที่ดีและผู้นำทีมที่ดีย่อมต้องมีเพื่อนร่วมทีมที่ดี "มาสร้างทีมงานที่มีความสุขด้วยความเข้าใจกันและไม่คิดว่าหน้าที่ที่สำคัญคือภาระหนักแต่ควรคิดว่ามันคือหน้าที่ที่ควรภาคภูมิใจ...เพราะมันมาจากความสามารถและการยอมรับของทีม"