ระบบจัดการสถานะการรักษาความปลอดภัยของ SaaS (SSPM - SaaS Security Posture Management) ที่ใช้สุดยอดเทคโนโลยี CASB ช่วยลดปัญหาข้อมูลรั่วไหลอันเกิดจากการกำหนดค่า SaaS อย่างไม่เหมาะสม
การทำงานแบบไฮบริดที่ทำงานทั้งจากสำนักงานและที่บ้านกลายเป็นวิถีชีวิตของพนักงานยุคหลังโควิด และมีการจัดเก็บข้อมูลที่อ่อนไหวจำนวนมากเอาไว้ในแอปกลุ่มซอฟต์แวร์ในรูปแบบบริการ (SaaS) ดังนั้น การกำหนดค่า SaaS อย่างไม่เหมาะสมจึงสร้างความเสี่ยงอันมหาศาลแก่ธุรกิจ ข้อมูลของ Statista ระบุว่า โดยเฉลี่ยในปี 2564 บริษัททั่วไปต้องดูแลความปลอดภัยแก่แอปพลิเคชันหรือแอปกลุ่ม SaaS มากกว่า 110 แอป
การกำหนดค่าแก่แอปกลุ่ม SaaS เป็นปัญหาที่พบโดยทั่วไป ดังนั้น พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ (NASDAQ: PANW) จึงเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในวันนี้ภายใต้ชื่อ Prisma® SASE ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจพบและแก้ไขการกำหนดค่าที่ไม่ถูกต้องให้กับแอปกลุ่ม SaaS โดยใช้คุณสมบัติของระบบจัดการสถานะการรักษาความปลอดภัยของ SaaS หรือที่เรียกว่า SSPM (SaaS Security Posture Management)
นายอนันด์ ออสวาล รองประธานอาวุโสฝ่ายระบบรักษาความปลอดภัยเครือข่ายของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ กล่าวว่า "แอปกลุ่ม SaaS ทำให้พนักงานในองค์กรมีอิสระในการทำงานได้จากทุกที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลที่อ่อนไหวจำนวนมากเกิดขึ้น การจัดเก็บ และแลกเปลี่ยนไปมาผ่านแอปพลิเคชันกลุ่ม SaaS ดังนั้น จึงสุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดปัญหาข้อมูลรั่วไหลอันเนื่องมาจากการกำหนดค่า SaaS ไม่ถูกต้อง กล่าวได้ว่าเราจำเป็นต้องมีโซลูชัน SASE ที่สามารถจัดการกับการกำหนดค่าและการรักษาความปลอดภัยแก่แอปพลิเคชันกลุ่ม SaaS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ” พร้อมกล่าวเสริมว่า "อัปเดตล่าสุดของ Prisma SASE ในครั้งนี้ ถือเป็นการเสริมปราการความปลอดภัยแก่แอปกลุ่ม SaaS ผ่านเทคโนโลยีสุดล้ำอย่าง CASB ของพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบและกำหนดค่าความปลอดภัยให้แก่แอปกลุ่ม SaaS จำนวนมากได้จากที่เดียว"
นอกจากระบบจัดการสถานะการรักษาความปลอดภัยของกลุ่ม SaaS (SSPM) แล้ว บริษัทยังเปิดตัว ZTNA 2.0 ซึ่งเป็นคุณสมบัติด้านการตรวจสอบความปลอดภัยล่าสุด อาทิ ระบบคัดกรอง URL ขั้นสูงที่อาศัยพลังของ ML (ML-powered Advanced URL Filtering) และระบบป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง (Advanced Threat Prevention) ตลอดจนโซลูชัน AIOps สำหรับ SASE ระบบแรกของวงการที่มีการผสานรวมเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์เอาไว้ในการดำเนินงานด้านไอทีอย่างกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียว ทำให้ภาระงานด้านระบบเครือข่ายและการรักษาความปลอดภัยกลายเป็นเรื่องง่ายในที่สุด
การประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งชุดครั้งนี้ประกอบด้วย
นอกจากคุณสมบัติใหม่ ๆ ด้านซอฟต์แวร์ข้างต้น พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ยังเปิดตัวอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่อย่าง ION 1200-S และ ION 3200 ที่ช่วยให้องค์กรยกระดับความทันสมัยแก่สาขาธุรกิจของตน ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลาง อุปกรณ์รุ่นใหม่เหล่านี้มาพร้อมสวิตช์และพอร์ต PoE (Power over Ethernet) ที่ฝังรวมมาในตัว เพื่อเชื่อมต่อและจ่ายไฟแก่อุปกรณ์ปลายทางของระบบเครือข่ายภายใน อีกทั้งยังรองรับ WAN ในตัว อาทิ 5G และ LTE บน ION 1200-S และพอร์ตไฟเบอร์บน ION 3200 ทำให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงความพร้อมของระบบ WAN ตลอดจนประสิทธิภาพและความเร็วให้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญทั้ง ION 1200-S และ ION 3200 จะช่วยลดความซับซ้อนในการดำเนินงานได้อย่างชัดเจน ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์เฉพาะทางหลายตัว อีกทั้งยังช่วยสำรองการจ่ายไฟด้วยแหล่งจ่ายไฟคู่ในตัวที่ทำให้มั่นใจว่าระบบเครือข่ายจะทำงานได้ตลอดเวลาและเชื่อมต่อได้อย่างไร้การติดขัด
ไมเคิล ฟากัน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปรับเปลี่ยนกระบวนการธุรกิจของวิลเลจ โรดโชว์ กล่าวว่า "ในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ดำเนินกิจการด้านโรงภาพยนตร์และสวนสนุกที่มีเครือข่ายใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย เราเริ่มต้นกับพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ด้วยการติดตั้ง Prisma SD-WAN เพื่อปรับปรุงเสถียรภาพและรองรับการเชื่อมต่อ WAN ได้ในปริมาณที่มากขึ้น" พร้อมกล่าวเสริมว่า "นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เราได้ติดตั้ง Prisma Access เพิ่มเติมเพื่อสร้างสถาปัตยกรรม SASE ให้สมบูรณ์แบบ และปกป้องสาขาต่างๆ และพนักงานที่ทำงานแบบไฮบริดให้ปลอดภัย เราดีใจที่ได้เห็นอุปกรณ์ Prisma SD-WAN สามารถรองรับการทำงานร่วมกับสวิตช์ 5G และ PoE ซึ่งจะทำให้การรวมโครงสร้างระบบของสาขาต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น และลดความยุ่งยากในกระบวนการ AIOps สำหรับ SASE ของเรา เรียกว่าไม่จำเป็นต้องจดจำชื่อผู้ใช้ รหัสพิน รหัสผ่าน โทเค็น หรือใช้บรรดาแอปการยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัยให้วุ่นวายอีกต่อไป ระบบยังมีประสิทธิภาพและอัปไทม์ที่ดีขึ้น ทำให้สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่กระทบต่อการให้บริการ และช่วยลดจำนวนการโทรแจ้งปัญหาถึงทีมบริการช่วยเหลือของเราอีกด้วย"
ไซมอน ฮิบเบิร์ต ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายไอทีของเคมิสต์ แวร์เฮาส์ กรุ๊ป กล่าวว่า "การปกป้องข้อมูลที่อ่อนไหว โดยเฉพาะข้อมูลในแอปพลิเคชันกลุ่ม SaaS ถือเป็นภาระสำคัญ ยิ่งมีการใช้บริการบนคลาวด์มากขึ้น เราก็ยิ่งต้องติดตั้งเฟรมเวิร์ก SASE และใช้มาตรการซีโรทรัสต์เพื่อควบคุมการเข้าถึงระบบเครือข่าย (Zero Trust Network Access) เพื่อปกป้องผู้ใช้และแอปพลิเคชันต่างๆ" พร้อมกล่าวเสริมว่า "การติดตั้ง Prisma SASE ทำให้พนักงานของเราสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีช่องทางใหม่ๆ ในการสานสัมพันธ์กับลูกค้า เราไม่ได้มีเพียงระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความน่าเชื่อถือของระบบและการเชื่อมต่อที่ราบรื่นขึ้นอย่างมากอีกด้วย"
จอห์น เกรดี นักวิเคราะห์อาวุโสจาก ESG กล่าวว่า "การใช้แอปพลิเคชันกลุ่ม SaaS ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นภาระหนักอึ้งของทีมที่ดูแลด้านความปลอดภัย ยิ่งมีแอปพลิเคชันมากขึ้นและเกิดการครอบครองข้อมูลกระจายทั่วทั้งองค์กร ความเสี่ยงในการกำหนดค่าระบบก็ยิ่งเพิ่มขึ้น และนั่นทำให้โอกาสในการเกิดปัญหาด้านความปลอดภัยมีเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว ดังนั้นโซลูชัน SASE อย่าง Prisma SASE จากพาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ จึงช่วยมอบทางออกหนึ่งเดียวที่วางใจได้ซึ่งครบถ้วนทุกความจำเป็นในด้านการรักษาความปลอดภัยแก่ SaaS ซึ่งรวมถึงเรื่อง SSPM ที่สำคัญฟังก์ชันที่มากขึ้นต้องไม่กระทบต่อประสิทธิภาพในการทำงานด้วย" พร้อมเสริมว่า "พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ มอบระบบรักษาความปลอดภัยแก่ SaaS ผ่านคุณสมบัติ SSPM ที่ให้ความสำคัญสูงสุดในเรื่องความปลอดภัยซึ่งสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างครอบคลุม อีกทั้งยังเป็นที่ยอมรับในเรื่องการป้องกันภัยคุกคามโดยใช้ระบบวิเคราะห์เป็นหลัก"
ข้อมูลเพิ่มเติม
โปรดดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Prisma SASE ได้ที่นี่และจากบล็อกของเรา นอกจากนี้พาโล อัลโต้ เน็ตเวิร์กส์ ยังเตรียมจัดงาน SASE Converge 2022 ซึ่งถือเป็นการประชุมสุดยอดชั้นนำด้าน SASE ในวันที่ 13-14 กันยายนนี้ เพื่อหารือถึงอนาคตของ SASE และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
กำหนดการ
ระบบจัดการสถานะการรักษาความปลอดภัยของ SaaS และอุปกรณ์ SD-WAN รุ่นใหม่ส่วนใหญ่พร้อมจำหน่ายทั่วโลกแล้ววันนี้ ขณะที่ ION 1200-S 4G/LTE จะพร้อมจำหน่ายนอกอเมริกาเหนือในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้ คุณสมบัติด้านระบบคัดกรอง URL ขั้นสูงและระบบป้องกันภัยคุกคามขั้นสูง พร้อมจำหน่ายแล้ววันนี้ และ AIOps สำหรับ SASE จะพร้อมจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายน 2565 นี้