เนื้อหาวันที่ : 2016-03-10 13:31:35 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3065 views

Canon EOS-1D X Mark II นิยามใหม่ของการถ่ายภาพระดับมืออาชีพ ทั้งภาพนิ่งและวีดีโอ 4K

กล้องดิจิตอลเอสแอลอาร์ รุ่นใหม่ล่าสุด รวมสุดยอดเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของตระกูล EOS-1D
เต็มเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพการทำงานสำหรับมืออาชีพ เพื่อภาพคุณภาพเยี่ยม

 

แคนนอนเปิดตัวกล้อง DSLR เรือธงรุ่นใหม่ Canon EOS-1DX Mark II ซึ่งเป็นรุ่นปรับปรุงของ EOS 1DX ทรงพลังด้วยฟีเจอร์ใหม่มากมาย รวบรวมนวัตกรรมล่าสุดของเทคโนโลยีการถ่ายภาพ และเทคโนโลยีชั้นเลิศของกล้องตระกูล EOS สู่กล้อง DSLR ระดับมืออาชีพ สำหรับช่างภาพมืออาชีพและผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเคลื่อนไหว ก้าวข้ามขีดจำกัดในการถ่ายภาพเพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่ดีที่สุด แม้ถ่ายในสถานการณ์ที่ต้องการความแม่นยำและใช้ความเร็วสูงอย่างการถ่ายภาพข่าว กีฬา และการถ่ายภาพชีวิตสัตว์ป่า

กล้อง Canon EOS-1DX Mark II ตอบโจทย์ความต้องการของช่างภาพมืออาชีพที่การถ่ายภาพช็อตสำคัญ ทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว คือสิ่งสำคัญแม้ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีข้อจำกัดมากมาย  กล้องรุ่นนี้จะช่วยให้ช่างภาพมืออาชีพสามารถสร้างสรรค์ผลงานการถ่ายภาพได้ตามต้องการ ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ เซนเซอร์รับภาพ Dual Pixel CMOS AF การถ่ายภาพต่อเนื่อง 16 เฟรมต่อวินาทีในโหมด Live View และความสามารถของฟังก์ชัน 4K Frame Grab

จัดเต็มเพื่อการถ่ายภาพความเร็วสูงที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ

ความเร็วในเสี้ยววินาทีมีความหมายอย่างมากต่อช่างภาพมืออาชีพ โดยเฉพาะในวงการกีฬา การถ่ายภาพข่าวและชีวิตสัตว์ป่า นอกเหนือจากการเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดเพื่อให้ได้ช็อตเด็ดที่สุดแล้ว ช่างภาพมืออาชีพจำเป็นจะต้องอาศัยอุปกรณ์ที่มีความเร็วสูงพอที่จะจับภาพได้ภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาที เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพไร้ที่ติ ด้วยการโฟกัสที่แม่นยำสำหรับภาพที่สมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Canon EOS-1DX Mark II สามารถทำได้ ด้วยระบบออโต้โฟกัสปรับปรุงใหม่แบบ 61 จุดที่มาพร้อมกับระบบออโต้โฟกัสแบบ cross type 41 จุด ซึ่งช่างภาพมืออาชีพจะได้ประโยชน์จากพื้นที่ออโต้โฟกัสที่กว้างขึ้น (ขยายพื้นที่ในแนวตั้งเพิ่มขึ้นประมาณ 24%) เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่น EOS-1D X

ระบบออโต้โฟกัสตรงกลางภาพยังได้รับการปรับปรุงให้สามารถหาจุดโฟกัสได้ในระดับ EV-3 จึงสามารถทำงานได้ดีในสภาพแสงน้อยและคอนทราสต์ต่ำ กล้อง DSLR รุ่นนี้ยังมาพร้อมกับ AI servo AF III+ ซึ่งเป็นอัลกอริธึมวิเคราะห์สถานการณ์การถ่ายภาพที่ช่วยให้ออโต้โฟกัสได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับภาพการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วและคาดไม่ถึง ด้วยระบบออโต้โฟกัส 61 จุด และขนาดรูรับแสงที่ f/8 หรือมากกว่า จึงสามารถออโต้โฟกัสได้แม้ใช้ Teleconverter กับเลนส์ซูเปอร์เทเลโฟโต้ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มักใช้กันในการถ่ายภาพสัตว์ป่าหรือภาพกีฬา

ยิ่งไปกว่านั้น กระจกสะท้อนภาพของ Canon EOS-1DX Mark II ยังได้รับการติดตั้งพร้อมกลไกควบคุมแบบใหม่ที่ช่วยหยุดการสั่นไหวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้กล้องจับภาพได้ถึง 14 เฟรมต่อวินาทีเมื่อใช้ระบบออโต้โฟกัสและเปิดใช้งาน Auto-exposure tracking หรือที่ 16 เฟรมต่อวินาทีในโหมด Live View โดยที่หน้าจอไม่ดับ ทั้งยังบันทึกภาพได้อย่างรวดเร็วด้วยช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ

CFast 2.0 จึงสามารถรองรับการถ่ายภาพฟอร์แมต RAW ติดต่อกันได้ถึง 170 ภาพ และฟอร์แมต JPEG ได้ไม่จำกัดในโหมดถ่ายภาพต่อเนื่อง

ถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงถึง 4K

กล้อง Canon EOS-1DC ที่ออกสู่ตลาดในปี ค.ศ. 2012 เป็นกล้องDSLRตระกูล EOS รุ่นแรกที่สามารถถ่ายวิดีโอแบบ 4K ได้ แต่ในปัจจุบันกล้อง Canon EOS-1DX Mark II ทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายวิดีโอ4K แบบ Motion JPEG ที่ความเร็ว 60p และ 50p จึงได้ฟุตเทจที่ราบรื่นเป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอแบบ Full HD พร้อมโหมด High Frame Rate ที่ทำให้ถ่ายได้ด้วยความเร็ว 120p และ100p ช่วยในการถ่ายวิดีโอแบบslow motion และที่สำคัญยังมีช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ CFast ช่วยในการบันทึกภาพที่มีปริมาณข้อมูลมากๆ ได้อย่างรวดเร็ว

Canon EOS-1DX Mark II เป็นรุ่นแรกในซีรีส์ EOS-1D ที่มาพร้อมระบบออโต้โฟกัสแบบ Dual Pixel CMOS AF (DAF) ผู้ที่ใช้ phase detection ในโหมด Live View จึงทำให้การทำงานของระบบออโต้โฟกัสเร็วสุดขั้วและติดตามจับภาพวัตถุที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องของรูรับแสง กล้อง DSLR รุ่นนี้ยังสามารถใช้ออโต้โฟกัสได้ในที่แสงน้อยถึง EV-3 ภายในระยะเซนเซอร์เมื่อถ่ายวิดีโอแบบ 4K และเช่นเดียวกับรุ่น EOS 7D Mark II กล้อง EOS-1D X Mark II มีระบบปรับความเร็วออโต้โฟกัสและความไวแสง Movie Servo AF เพื่อความคล่องตัวในการถ่ายวิดีโอ รวมถึงฟังก์ชั่นปรับโฟกัส DAF ด้วยการสัมผัสหน้าจอLCDในโหมด Live View

กล้องรุ่นนี้ยังมีฟังก์ชั่น 4K Frame Grab ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกภาพนิ่งในฟอร์แมต JPEG ความละเอียดถึง 8.8 ล้านพิกเซลจากวิดีโอ 4K ที่ถ่ายไว้ในกล้องได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ (คุณภาพของภาพนิ่งอาจไม่เท่ากับภาพถ่ายปกติ) ความสามารถในการถ่ายวิดีโอที่ความเร็ว 60p ยังช่วยให้นักถ่ายภาพสั ตว์ป่าและกีฬาสามารถเลือกภาพนิ่งที่ต้องการจากวินาทีใดของวิดีโอก็ได้ จึงเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างมาก

ให้ภาพสวยคุณภาพระดับท็อป

Canon EOS-1DX Mark II สร้างปรากฏการณ์ใหม่ของกล้องตระกูล EOS ด้วยเซนเซอร์ 35mm full frame CMOS ที่พัฒนาขึ้นใหม่ ชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ ความละเอียดสูงสุดถึง 20.2 ล้านพิกเซล และค่า ISO สูงสุดถึง 409,600 ซึ่งเหนือกว่ากล้องรุ่นก่อนหน้าคือ EOS-1D X ถึง 1 stop ผู้ใช้จึงสามารถถ่ายภาพได้ดียิ่งขึ้นในสภาพแสงน้อย อีกทั้งมีเซนเซอร์วัดแสง RBG+IR metering sensor ความละเอียด 360,000 พิกเซล และระบบ EOS iTR AF ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการติดตามภาพที่จะถ่าย สำหรับการถ่ายภาพในอาคารโดยใช้แสงจากหลอดไฟ ผู้ใช้ยังสามารถเปิดโหมดตรวจจับการกะพริบของแสง(Anti-flicker)เพื่อให้ได้สภาพแสงที่นิ่งมากขึ้น ช่วยลดความเพี้ยนของแสงและสีได้ดีขึ้น

Digital Lens Optimizer ที่ให้มาในตัวกล้องใช้ในการเพิ่มคุณภาพของภาพในฟอร์แมต RAW ได้ทันทีภายในกล้อง โดยไม่ต้องนำไปผ่านกระบวนการ post-production เหมือนเมื่อก่อน ฟังก์ชั่นตกแต่งภาพนี้ทำได้ทั้งการแก้ไขความคลาดเคลื่อนสี ระดับแสงบริเวณขอบภาพ และยังสามารถแก้ไขความเบลอของภาพจากการใช้รูรับแสงเล็กได้เป็นครั้งแรกของกล้องตระกูล EOS ฟังก์ชั่นเหล่านี้ทำให้ผู้ใช้ได้ภาพฟอร์แมต JPEG ที่มีคุณภาพดีขึ้นจากกล้องได้โดยตรงแบบไม่ต้องแต่งภาพด้วยคอมพิวเตอร์ ช่วยในการทำงานด้านภาพในสถานการณ์ที่ต้องแข่งกับเวลา นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่น Fine Detail ที่ช่วยให้ภาพในฟอร์แมต JPEG มีความคมชัดสูงขึ้นด้วย

คงทนใช้ได้นาน

ทุกส่วนของ Canon EOS-1DX Mark II ตั้งแต่กระจกสะท้อนภาพไปจนถึงกลไกชัตเตอร์ถูกสร้างขึ้นให้มีความแข็งแกร่งทนทาน จึงมีอายุการใช้งานชัตเตอร์ถึง 400,000 ครั้ง บอดี้ของกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยกันน้ำและฝุ่น ช่างภาพจึงวางใจได้เมื่อนำไปใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานกลางแจ้ง

ด้านการออกแบบ กริปและปุ่มปรับได้รับการปรับปรุงให้ใช้ง่ายและสะดวกสบายยิ่งขึ้นสำหรับมือทุกขนาด ทั้งยังวางตำแหน่งปุ่มควบคุมต่างๆ ให้คล้ายกันทั้งแนวตั้งและแนวนอน ไม่ว่าจะจับกล้องแนวนอนเพื่อถ่ายภาพทิวทัศน์ หรือจับแนวตั้งเพื่อถ่ายภาพคนก็ไม่รู้สึกแตกต่างกัน

Canon EOS-1DX Mark II ใช้แบตเตอรี LP-E19 ซึ่งจุพลังงานได้มากขึ้น 10% เมื่อเทียบกับ แบตเตอรี LP-E4N ในกล้อง EOS-1DX จึงใช้งานกล้องได้นานกว่าเดิม

มี GPS ในตัวและอุปกรณ์ส่งไฟล์ไร้สายให้เลือกใช้

Canon EOS-1DX Mark II เป็นรุ่นแรกในตระกูล EOS-1D ที่มีระบบ GPS ในตัว จึงสามารถใส่แท็กรูปภาพพร้อมข้อมูลสถานที่และเวลาที่ถูกต้อง ช่วยในการจัดระเบียบภาพอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การถ่ายโอนไฟล์ภาพก็สามารถทำได้ง่ายด้วยอุปกรณ์ส่งไฟล์ไร้สาย WFT-E8 ที่มีให้เลือกใช้กับกล้องรุ่นนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวรองรับการส่งไฟล์ความเร็วสูงผ่าน IEEE802.11a/b/g/n/ac (5 GHz และ 2.4 GHz) wireless LAN เมื่อนำมาติดตั้งเข้ากับตัวกล้องจะช่วยในการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน ได้อย่างราบรื่น ผู้ใช้จึงสามารถควบคุมกล้องจากระยะไกลในการถ่ายภาพนิ่ง วิดีโอ รวมถึงแชร์ภาพไปยังสมาร์ทโฟนผ่านแอปพลิเคชั่น Camera Connect ของแคนนอน EOS-1D X Mark II ยังมาพร้อมพอร์ต USB 3.0 เพื่อการส่งข้อมูลอย่างรวดเร็วอีกด้วย

ข้อมูลจำเพาะของ Canon EOS-1DX Mark II

ขนาด: 158 x 167.6 x 82.6 มม.
น้ำหนัก: 1,340 กรัม (เฉพาะตัวกล้อง)
เซนเซอร์ภาพ: 20.2 mega-pixel 35mm Full Frame CMOS sensor with Dual Pixel CMOS AF
ชิปประมวลผลภาพ: Dual DIGIC 6+
ค่า ISO: 100-51,200 (เพิ่มได้ถึง 409,600)
ความเร็วถ่ายภาพต่อเนื่อง: 16 fps (Live View), 14 fps (Viewfinder)
คุณภาพวิดีโอสูงสุด: 4K 60p (สูงสุด 30 นาที)
ระบบออโต้โฟกัส: 61-point High-Density Reticular AF System (41-point cross type)
การเชื่อมต่อแบบ Wi-Fi: ด้วยอุปกรณ์ WFT-E8 (Optional)
ระบบ GPS: มี
จอ LCD: กว้าง 3.2 นิ้ว (ความละเอียด 1.62 ล้านจุด)
ช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ: CF + CFast 2.0

-----------------------------------------------------------------------------------

EOS 1DX Mark II

 คุณสมบัติสุดล้ำ ความเร็วสุดขั้ว EOS-1D X Mark II คือการผสมผสานอย่างยอดเยี่ยมระหว่างนวัตกรรมและการพัฒนา สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ถึง 14 ภาพต่อวินาที (และ 16 ภาพต่อวินาทีในโหมด Live View ถ่ายภาพในฟอร์แมต RAW ได้ถึง 170 ภาพเมื่อใช้กับการ์ด CFast พร้อมระบบออโต้โฟกัส 61 จุดช่วยในการถ่ายภาพอย่างคมชัดและรวดเร็วแม้แสงน้อย ความสามารถในการถ่ายภาพเคลื่อนไหวที่เต็มประสิทธิภาพ

โดยสามารถถ่ายเคลื่อนไหวความละเอียด 4K ที่ความเร็ว 60 เฟรมต่อวินาทีได้อย่างราบรื่นและคมชัด เมื่อผนวกกับประสิทธิภาพของเซนเซอร์และช่วงความไวแสงที่ช่วยในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย EOS-1D X Mark II จึงทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมและรวดเร็วในทุกที่ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพในสนามกีฬา ซาฟารี สตูดิโอ และอื่นๆ EOS-1D X Mark II คือกล้องที่รวมสุดยอดนวัตกรรมจากแคนนอน และเปิดศักราชใหม่ของกล้องถ่ายภาพตระกูล EOS

คุณสมบัติเด่น

ถ่ายภาพได้เร็วที่สุด ความเร็วสูงถึง 14 ภาพต่อวินาทีทั้งฟอร์แมต RAW และ JPEG และเร็วได้ถึง 16 ภาพต่อวินาทีในโหมด Live View ด้วยชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ ใหม่ล่าสุด

ถ่ายภาพ Full-resolution RAW หรือ JPEG ได้ถึง 14 ภาพต่อวินาที และ 16 ภาพต่อวินาทีในโหมด Live View

EOS-1D X Mark II อัดแน่นด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยในการทำงานอย่างรวดเร็วในทุกขั้นตอนของการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นกลไกกระจกสะท้อนภาพที่ออกแบบมาให้มีความแม่นยำสูงและลดการสั่นไหวแม้ใช้งานด้วยความเร็วสูง ส่วนชัตเตอร์ใช้งานได้ถึง 400,000 ครั้ง เซนเซอร์ CMOS อ่านสัญญาณภาพได้อย่างรวดเร็วเพื่อการถ่ายภาพอย่างฉับไว อีกทั้งยังมีระบบ AF/AE ที่รวดเร็ว ชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+และบันทึกข้อมูลเร็วทันใจผ่านช่องใส่การ์ดหน่วยความจำ CFast จึงมั่นใจได้ว่ากล้องจะทำงานอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+


หัวใจของการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพของ EOS 1D X Mark II คือชิป Dual DIGIC 6+ ซึ่งไม่เพียงแต่เปลี่ยนแสงที่ผ่านเซนเซอร์เข้ามาให้กลายเป็นภาพนิ่งและภาพวิดีโอคุณภาพสูงเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมของกล้องอีกด้วย โดยชิปได้รับการพัฒนาให้ประมวลผลได้เร็วขึ้น รองรับการถ่ายภาพนิ่งได้ถึง 16 ภาพต่อวินาที และวิดีโอ 4K/60p รวมถึงความสามารถในการแก้ไขอาการคลาดเคลื่อนต่างๆที่เกิดจากการทำงานของเลนส์ อาทิ การแก้อาการบิดเบี้ยวของภาพ ความสว่างบริเวณขอบภาพ อาการคลาดเคลื่อนสีและอาการภาพเบลอที่เกิดจากการใช้ค่ารูรับแสงที่แคบ ทั้งนี้สามารถทำงานได้ในระหว่างการใช้งานโดยแทบจะไม่ส่งผลต่อความเร็วของกล้อง รวมถึงบันทึกภาพอย่างรวดเร็วและคุณสมบัติอื่นๆ * ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่องขึ้นอยู่กับรูรับแสง เลนส์ที่ใช้ และสภาพของสิ่งที่ถ่าย

ถ่ายภาพฟอร์แมต RAW ต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 170 ภาพ ที่ความเร็ว 16 ภาพต่อวินาที ถ่ายวิดีโอ 4K บันทึกในการ์ด CFast ผ่านช่องการ์ด CFast 2.0

EOS-1D X Mark II ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอจำนวนมากได้เร็วอย่างน่าทึ่ง เมื่อใช้การ์ดหน่วยความจำ CFast 2.0 จะสามารถบันทึกภาพในฟอร์แมต RAW แบบ full-size ได้ถึง 170 ภาพ และภาพฟอร์แมต JPEG ได้จนเต็มความจุของการ์ดด้วยความเร็ว 16 ภาพต่อวินาที การถ่ายวิดีโอ 4K/60p และ Full HD 120p ทำได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังรองรับฟอร์แมต exFAT อีกด้วย จึงถ่ายวิดีโอที่ไฟล์มีขนาดใหญ่กว่า 4GB ได้โดยไม่ต้องแบ่งไฟล์แล้วนำมารวมในภายหลัง ส่วนการบันทึกลงการ์ด CF ลบออกสามารถบันทึกไฟล์ full-size RAW ได้ถึง 73 ไฟล์ และ JPEG ได้จนเต็มความจุเมื่อบันทึกใน CF UDMA7

ข้อมูล ณ เดือนกุมภาพันธ์ 2016:

 

 

การ์ดหน่วยความจำต่างๆ อาจมีประสิทธิภาพไม่เท่ากัน การใช้งานยาวนานอาจส่งให้ความเร็วในการบันทึกข้อมูลลดลง ผู้ใช้จึงควร format และ refresh การ์ดอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ "Full Format and Refresh Tool."
* แคนนอนได้รับอนุญาตในการใช้เครื่องหมายการค้า CFast 2.0 

จุดสีรบกวน (noise) น้อยลงในภาพที่ใช้ค่า ISO สูง ด้วยเซนเซอร์ฟูลเฟรม CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล ช่วง ISO ได้ตั้งแต่ 100-51200 เพิ่มได้ถึง ISO 409600

 เซนเซอร์ Full-Frame CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล


EOS-1D X Mark II ใช้เซนเซอร์ฟูลเฟรม CMOS ความละเอียด 20.2 ล้านพิกเซล ที่แคนนอนพัฒนาขึ้นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยให้บันทึกพิกเซลได้มากขึ้นแล้ว ยังมี gapless micro lenses เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ลดการ รวมถึงเพิ่มความไวแสงซึ่งทำให้ EOS-1D X Mark II จับภาพได้ด้วยความเร็วสูง เพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานเฟรมต่อเฟรม การถ่ายวิดีโอ 4K (60p/30p) และรวมถึงการเล่นภาพเคลื่อนไหวที่ถ่ายไว้จากตัวกล้อง ลบออก อีกทั้งยังเป็นเซนเซอร์ฟูลเฟรมตัวแรกของแคนนอนที่มีระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF เพื่อการโฟกัสอย่างรวดเร็วและแม่นยำระหว่างการถ่ายภาพนิ่งในโหมด Live View และการถ่ายภาพเคลื่อนไหว

ช่วงความไวแสง ISO 100-51200 ขยายได้ถึง ISO 409600


EOS-1D X Mark II มีหลายออปชั่นให้เลือกเพื่อการถ่ายภาพอย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแสงที่หลากหลายหรือเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ด้วยค่า ISO มาตรฐานให้เลือกตั้งแต่ 100-51200 อัตราการเกิด noise ต่ำ และลดการเกิดจุดสีรบกวนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายภาพที่ความไวแสงต่ำถึง ISO 50 (L) หรือสูงถึง 102400 (H1) 204800 (H2) และ 409600 (H3) ได้อีกด้วย โดยสามารถตั้งค่า ISO อัตโนมัติได้ในเมนูสำหรับ ISO โดยเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้สามารถตั้งค่า ISO สูงสุดและต่ำสุด หรือเลือกค่าที่ต้องการได้ รวมทั้งสามารถตั้งให้เป็นแบบออโต้หรือแมนนวลก็ได้

ออโต้โฟกัสประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยระบบ High Density Reticular AF II 61 จุด พร้อมโฟกัสแบบ cross-type 41 จุด เพิ่มความไวในการโฟกัสที่จุดกึ่งกลางภาพถึงระดับ -3 EV ที่ขนาดรูรับแสง f/8

การโฟกัสที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

EOS-1D X Mark II ปรับปรุงประสิทธิภาพในการโฟกัสให้แน่นอนและแม่นยำ ทำงานเร็วและใช้ได้ในหลากหลายสถานการณ์มากขึ้น ด้วยระบบ High Density Reticular AF II 61 จุด พร้อมโฟกัสแบบ cross-type 41 จุด เพิ่มพื้นที่โฟกัสด้านบนและล่างของจุดโฟกัสกลางภาพขึ้นอีก 8.6% อีกทั้งเพิ่มพื้นที่โฟกัสด้านบนและล่างของกรอบภาพอีก 24% พื้นที่ที่เพิ่มขึ้นทำให้การติดตามโฟกัสในภาพที่มีการเปลี่ยนแปลงความเร็วและตำแหน่งของตัวแบบอย่างฉับพลันทำได้ง่ายขึ้น ระบบออโต้โฟกัสยังได้รับการปรับปรุงให้ทำงานได้ในสภาพที่มีปริมาณความสว่างของแสงต่ำถึง EV -3 และที่สำคัญโฟกัสทั้ง 61 จุด สามารถออโต้โฟกัสได้แม้เลนส์ที่ถ่ายภาพจะมีขนาดรูรับแสงที่กว้างสุดที่ f/8  อัลกอริธึมระบบออโต้โฟกัสของ EOS-1D X Mark II ยังได้รับการปรับปรุงโดยเพิ่มระบบ AI Servo AF III+ ซึ่งจะจดจำเส้นทางการโฟกัสและทำให้ติดตามโฟกัสได้แม่นยำมากขึ้น ไม่ว่าจะเลือกจุดโฟกัสแบบแมนนวล ใช้โหมด Large Zone AF หรือใช้โหมดการโฟกัสอัตโนมัติแบบอื่นๆ EOS-1D X Mark II ก็ทำได้ยอดเยี่ยมเหนือความคาดหมายเสมอ

 

ช่องมองภาพอัจฉริยะปรับปรุงใหม่ มองเห็นจุดโฟกัสได้ชัดเจนขึ้น

EOS-1D X Mark II มาพร้อมช่องมองภาพ Intelligent Viewfinder II เพื่อความสะดวกในการจัดองค์ประกอบภาพและเปลี่ยนการตั้งค่าโดยไม่ต้องละสายตาจากซับเจกต์ จอแอลซีดีของช่องมองภาพสามารถแสดงข้อมูลได้มากขึ้นและแสดงจุดโฟกัสด้วยสีแดง จึงมองเห็นได้ง่ายในที่มืดและที่ที่มีแสงรบกวนมาก ฟีเจอร์อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นตัววัดระนาบอิเล็กทรอนิกส์ กริด ระบบตรวจจับการกะพริบของแสง สมดุลแสงสีขาว โหมดวัดแสง ข้อมูลโฟกัส ก็มองเห็นได้ง่ายโดยไม่ต้องละความสนใจจากสิ่งที่กำลังถ่าย

* ยกเว้นเมื่อใช้กับเลนส์ Canon EF 50mm f/2.5 Macro, EF 100mm f/2.8 Macro, EF 100mm f/2.8 Macro USM, EF 100mm f/2.8L Macro IS USM และ EF 28-80mm f/2.8-4L USM.

ติดตามซับเจกต์ไม่มีหลุดโฟกัสทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ ด้วย EOS Intelligent Tracking and Recognition AF และเซนเซอร์วัดแสง 360,000 พิกเซล

EOS-1D X Mark II ใช้เซนเซอร์วัดแสงสุดล้ำสมัย RGB+IR 360,000 พิกเซล และตัวประมวลผลที่ช่วยให้ระบบโฟกัสทำงานได้อย่างน่าประทับใจทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ เซนเซอร์ความละเอียดสูงที่ไวต่อแสงอินฟราเรดและมีกลไกตรวจจับที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมนี้ช่วยให้ระบบ Intelligent Subject Analysis (iSA) ของกล้องสามารถตรวจจับสีสันและรูปร่างได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังโฟกัส วัดแสงและชดเชยแสงได้เร็วและแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลเกี่ยวกับแสงและซับเจกต์ที่เพิ่มมากขึ้นยังช่วยในการทำงานของระบบ Intelligent Tracking and Recognition AF (iTR) ให้สามารถรักษาระยะโฟกัสของซับเจกต์ที่กำลังเคลื่อนไหวได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้น

รองรับงานถ่ายวิดีโอคุณภาพสูงระดับ 4K (4096 x 2160) ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 60 เฟรมต่อวินาที (59.94) พร้อมฟังก์ชั่น Frame Grab**** ให้ภาพนิ่งความละเอียด 8.8 ล้านพิกเซลจากไฟล์วิดีโอ 4K ที่ถ่ายไว้ในกล้องได้อย่างง่ายดาย ในโหมดสโลว์โมชั่นยังให้ชิ้นงานความละเอียดสูงระดับ Full HD 1080p ที่ความเร็วสูงสุดถึง 120 เฟรมต่อวินาที

กล้อง EOS-1D X Mark II มาพร้อมกับความสามารถเหนือชั้นในการผลิตภาพยนตร์ ด้วยประสิทธิภาพอันยอดดเยี่ยมของชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ และเซนเซอร์พัฒนาใหม่ จึงสามารถถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงขนาดใหญ่ได้ถึงระดับ 4K (ในฟอร์แมต Motion JPEG) ที่ความเร็วสูงสุดถึง 60 เฟรมต่อวินาที และบันทึกไฟล์เก็บไว้ได้อย่างรวดเร็วด้วยเมมโมรีการ์ดแบบ CFastTM กล้อง EOS-1D X Mark II ยังถือเป็นกล้องตระกูล EOS รุ่นแรกที่สามารถบันทึกวิดีโอคุณภาพระดับ Full HD ที่ความเร็ว 120 เฟรมต่อวินาที ช่วยให้จับภาพรายละเอียดขนาดเล็กที่ตามนุษย์แทบมองไม่เห็นได้อย่างง่ายดาย และเหมาะกับการถ่ายวิดีโอแบบสโลว์โมชั่นเป็นอย่างยิ่ง ตัวกล้องติดตั้งหน้าจอระบบทัชสกรีนแบบใหม่ ช่วยให้เลือกจุดออโต้โฟกัสขณะถ่ายภาพได้คล่องตัวยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันฟังก์ชั่นจับภาพนิ่งความละเอียด 8.8 ล้านพิกเซล 4K Frame Grab* ยังช่วยให้ผู้ใช้เช็คตำแหน่งโฟกัสได้รวดเร็ว โดยสามารถเซฟภาพนิ่งที่เลือกเก็บไว้ดูได้ ขณะเดียวกันความสามารถในการจับภาพในสภาพแสงน้อยยังได้รับการปรับปรุงให้ดีเช่นกัน โดยในโหมดวิดีโอ 4K สามารถเลือกปรับ ISO ได้สูงสุดถึง 12800 และ 25600 ในโหมด Full HD นอกจากนี้ยังรองรับ HDMI output แบบไม่บีบอัดไฟล์ สำหรับงานวิดีโอระดับ Full HD ช่วยให้ขั้นตอนการตัดต่อวิดีโอทำได้ง่ายขึ้น ทำให้ชิ้นงานสูญเสียคุณภาพน้อยที่สุด นอกจากนั้นผู้ใช้ยังสามารถเลือกเซฟไฟล์วิดีโอในรูปแบบ MP4 ได้ด้วย สามารถนำไปเปิดเล่นบนอุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์ได้อย่างง่ายดาย

* ภาพนิ่งที่เซฟจากเฟรมภาพวิดีโอจะให้คุณภาพของชิ้นงานไม่เท่ากับภาพนิ่งที่ถ่ายในโหมดปกติ

ถ่ายวิดีโอเหนือชั้นยิ่งขึ้นด้วยระบบออโต้โฟกัส Dual Pixel CMOS AF และ Movie Servo AF ช่วยให้การออโต้โฟกัสต่อเนื่องเป็นไปได้ด้วยความเร็วสูง และให้ภาพในระบบ High Frame Rate

แคนนอนได้ปฏิวัติระบบออโต้โฟกัสขนานใหญ่ ทำให้กล้อง EOS-1D X Mark II กลายเป็นอุปกรณ์ผลิตภาพยนตร์ขนาดพกพาประสิทธิภาพเยี่ยม ทั้งนี้ แม้จะอยู่ในโหมดวิดีโอ 4K ระบบออโต้โฟกัสแบบต่อเนื่องในตัวกล้องก็ยังทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพราะมีเทคโนโลยี Dual Pixel CMOS AF ซึ่งรองรับการทำงานร่วมกับเลนส์ EF ของแคนนอนได้ทุกรุ่น ผู้ใช้สามารถตั้งเลือกจุดโฟกัสได้ทั้งแบบออโต้และแมนนวลจากหน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีนแบบใหม่ นอกจากนี้ยังสามารถยืนยันสัดส่วนพื้นที่โฟกัสที่ต้องการทั่วเฟรมได้ง่ายๆ เพียงแค่ขยายภาพนิ่งที่ได้จากไฟล์วิดีโอ ขณะเดียวกัน ฟังก์ชั่น Movie Servo AF ในตัวกล้องยังสามารถเปิดใช้ได้กับการถ่ายภาพทุกระดับเฟรมเรตและความละเอียด นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าเลือกต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นความไวในการติดตามวัตถุ ความเร็วในการจับออโต้โฟกัส และการติดตามใบหน้า ฟีเจอร์พัฒนาใหม่เหล่านี้ทำให้ EOS-1D X Mark II เป็นกล้องที่มีความสามารถรอบด้านและสะดวกในการถ่ายภาพยนตร์คุณภาพสูงระดับ 4K และ Full HD อย่างแท้จริง

 

เป็นไปได้ทุกสถานการณ์ทั้งภาพนิ่งภาพเคลื่อนไหว ด้วยหน้าจอ LCD ระบบทัชสกรีน ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านจุด

กล้อง EOS-1D X Mark II มาพร้อมหน้าจอ TFT LCD ระบบทัชสกรีน ขนาด 3.2 นิ้ว ความละเอียด 1.62 ล้านจุด มีคุณสมบัติป้องกันแสงสะท้อน พร้อมเทคโนโลยี Clear View LCD II จากแคนนอน ช่วยให้มองเห็นภาพได้คมชัด สดใสในทุกสถานการณ์ ฟังก์ชั่นทัชสกรีนแบบใหม่ยังช่วยให้การเปลี่ยนตำแหน่งจุดโฟกัสและการขยายภาพทั้งในโหมด Live View และโหมดวิดีโอทำได้สะดวกยิ่งขึ้น แคนนอนออกแบบให้หน้าจอ LCD นี้สะดวกแก่ผู้ใช้ทั้งในการตั้งค่าและเช็คภาพ รวมถึงการถ่ายภาพในโหมด Live View ทั้งนี้ เมื่ออยู่ในโหมด Live View ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้กล้องแสดงภาพพร้อมเส้นตารางได้ทั้งแบบ 9 ช่องและ 24 ช่อง หรือจะเลือกแสดงเป็นแบบ 9 ช่องพร้อมเส้นทแยงมุมก็ทำได้ รวมถึงแสดงตัววัดระดับความเอียงอิเล็กทรอนิกส์แบบแกนคู่ (dual-axis electronic level) ซึ่งช่วยในการวัดระดับแนวนอนของตัวกล้องได้อย่างแม่นยำ โดยจะแสดงความโน้มเอียงขึ้นลงของกล้องทุก 1 องศา ในส่วนของการดูภาพ กล้อง EOS-1D X Mark II มาพร้อมปุ่ม Magnify/Reduce ช่วยให้การซูมภาพเข้าและออกเป็นเรื่องง่าย เพียงแค่กดปุ่มนี้พร้อมกับหมุนปุ่ม Main Dial ก็สามารถซูมภาพได้ตามต้องการทันที (ขยายได้สูงสุด 10 เท่า) นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเลือกล็อคภาพป้องกันมิให้ภาพถูกลบโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือจะเลือกลบภาพก็ทำได้รวดเร็ว ทั้งแบบทีละภาพหรือแบบกลุ่ม ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเลือกแสดงภาพแบบสไลด์โชว์ได้ โดยจัดกลุ่มภาพที่ต้องการตามเงื่อนไขต่างๆ เช่น วันที่ แฟ้มภาพ ภาพวิดีโอ ภาพนิ่ง ภาพที่ถูกล็อคไว้ หรือเรตติ้งของภาพ ตัวกล้องยังมีฟังก์ชั่น Featured Guide ช่วยอธิบายประโยชน์การใช้งานในเมนูต่างๆ ซึ่งสามารถเลือกเปิดปิดได้ตามต้องการ

ภาพละเอียดคมชัดยิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี Digital Lens Optimizer ใหม่ติดตั้งในตัวกล้อง แก้ปัญหาความคลาดเคลื่อนของสีที่เกิดจากเลนส์ถ่ายภาพและปัญหาภาพเบลอที่เกิดจากรูรับแสงที่แคบเกินไป

เพื่อป้องกันมิให้คุณภาพความคมชัดของภาพลดลงจากปัญหาความคลาดเคลื่อนของสีที่เกิดจากเลนส์และรูรับแสง แคนนอนจึงติดตั้งฟังก์ชั่นที่ช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้มากับกล้อง EOS-1D X Mark II มากมายเพื่อให้ภาพออกมาสมบูรณ์และคมชัดมากที่สุด และช่วยแก้ปัญหาภาพสีเพี้ยนในตัวกล้องได้ทันที กล้อง EOS-1D X Mark II ไม่เพียงช่วยแก้ปัญหาขอบภาพสีเพี้ยนและความคลาดเคลื่อนของสีเท่านั้น  แต่นี่ยังเป็นครั้งแรกที่กล้องตระกูล EOS มีฟังก์ชั่นช่วยแก้ปัญหาภาพบิดเบี้ยว (Distortion Correction) และปัญหาภาพเบลอจากรูรับแสง (Diffraction Correction) มารวมไว้ในตัวกล้องด้วย โดยฟังก์ชั่น Distortion Correction นี้สามารถแก้ปัญหาภาพเบี้ยวได้ทั้งแบบส่วนกลางของภาพบิดเบี้ยวในลักษณะที่เพิ่มขึ้น (barrel) และส่วนกลางของภาพบิวเบี้ยวในลักษณะยุบตัว(pincushion) ขณะที่ฟังก์ชั่น Diffraction Correction ช่วยแก้ปัญหาภาพเบลอที่มักเกิดขึ้นเมื่อใช้รูรับแสงที่มีขนาดเล็กเกินไปได้ถึงเกือบ 100% ชิปประมวลผลภาพ Dual DIGIC 6+ ที่มากับกล้องยังช่วยให้ฟังก์ชั่นเหล่านี้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำให้การทำงานของกล้องช้าลง นอกจากนี้ เทคโนโลยี Digital Lens Optimizer จากแคนนอน ยังช่วยให้การประมวลผลภาพในฟอร์แมต RAW ทำได้รวดเร็วทันทีในตัวเครื่อง ไม่เพียงช่วยให้ภาพมีคุณภาพสูงขึ้น แต่ยังช่วยให้ช่างภาพทำงานได้อย่างมั่นใจแม้อยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

 

มีระบบ GPS ในตัว***** ติดข้อมูลของภาพแสดงข้อมูลทางภูมิศาสตร์ รวมถึงเวลาสากลเชิงพิกัดที่ซิงก์ข้อมูลโดยอัตโนมัติผ่านระบบดาวเทียม

ระบบ GPS แสดงข้อมูลสถานที่และเวลาได้กลายมาเป็นหนึ่งในขั้นตอนการทำงานที่ขาดไม่ได้ของมืออาชีพ โดยเฉพาะช่างภาพที่ต้องไปทำงานนอกสถานที่ และถ่ายภาพเป็นจำนวนมากต่อวัน กล้อง EOS-1D X Mark II มาพร้อมระบบ GPS ในตัว* ไม่เพียงช่วยให้ผู้ใช้ติดแท็กภาพแสดงข้อมูลสถานที่ ยังสามารถปรับข้อมูลเวลาและแสดงเวลาที่ต้องการลงในภาพได้โดยอัตโนมัติ และด้วยระบบ GPS ในตัว* รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ผ่านอุปกรณ์เสริมสำหรับส่งไฟล์ไร้สายรุ่น WFT-E8A  กล้อง EOS-1D X Mark II จึงสามารถใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติทั้งสองประการนี้ได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้อัปโหลดข้อมูลภาพปริมาณมหาศาลได้อย่างรวดเร็วแม้จะอยู่ในสถานที่ห่างไกลก็ตาม ทั้งนี้ ระบบ GPS ในกล้องรุ่นนี้รองรับการทำงานได้ทั้งกับดาวเทียม GPS ของสหรัฐฯ ดาวเทียม GLONASS ของรัสเซีย และดาวเทียม Michibiki ของญี่ปุ่น ข้อมูล GPS ที่ได้จึงแม่นยำเชื่อถือได้ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ตาม 

* ในบางประเทศและภูมิภาค การใช้ระบบ GPS อาจมีข้อจำกัด ควรศึกษาข้อมูลทางกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของประเทศหรือภูมิภาคนั้นๆ ก่อนใช้งาน และโปรดระมัดระวังเมื่อเดินทางออกนอกประเทศ และเนื่องจากระบบนี้จำเป็นต้องมีการรับสัญญาณจากดาวเทียม GPS โปรดใช้งานอย่างระมัดระวังเมื่ออยู่ในสถานที่ที่ห้ามใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

รองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมส่งไฟล์ผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย WFT-E8A รุ่นใหม่ ผ่านอุปกรณ์เน็ตเวิร์คไร้สาย IEEE 802.11ac/n/a/g/b (ใช้ได้ทั้งกับช่องสัญญาณ 2.4 GHz และ 5 GHz)

อุปกรณ์ส่งไฟล์ผ่านระบบเครือข่ายไร้สาย WFT-E8A เป็นอุปกรณ์เสริมรุ่นใหม่สำหรับกล้อง EOS-1D X Mark II ที่มาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายโอนไฟล์ภาพอย่างรวดเร็ว และมีฟีเจอร์ใหม่อีกหลายอย่างที่ช่วยให้การถ่ายภาพระบบไร้สายทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว รองรับการถ่ายโอนไฟล์ภาพความเร็วสูงมาตรฐาน 802.11ac ที่ความถี่ 5 GHz พร้อมยูสเซอร์อินเตอร์เฟสปรับโฉมใหม่ ช่วยให้การตั้งค่าระบบเครือข่ายไร้สายและการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android** ทำได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ อุปกรณ์ส่งไฟล์ไร้สาย WFT-E8A ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้สมาร์ทโฟนทำหน้าเสมือนเป็นรีโมทคอนโทรล ควบคุมการทำงานของตัวกล้องจากระยะไกลได้ทั้งการจับภาพนิ่งและวิดีโอ หรือแม้แต่โอนไฟล์ภาพที่ถูกบันทึกไว้แล้วกลับมาเพื่อดูบนหน้าจอกล้อง ก็ทำได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริมดังกล่าวยังมีขนาดกะทัดรัดและทนทาน ป้องกันฝุ่นและน้ำได้ดีเยี่ยมเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ที่ยากลำบาก

* รองรับการใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS เวอร์ชั่น 7.1/8.4/9.0 สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น 4.0/4.1/4.2/4.3/4.4/5.0/5.1 อาจมีค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้ข้อมูลในการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นฟรี Canon Camera Connect ซึ่งแอพฯนี้จะช่วยให้คุณสามารถอัปโหลดภาพขึ้นไปยังเว็บบริการโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ และโปรดระลึกไว้ว่าไฟล์ภาพเหล่านี้อาจมีข้อมูลส่วนบุคคลที่อาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลได้ แคนนอนไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อการนำภาพเหล่านี้ไปใช้ของคุณ และแคนนอนจะไม่มีการเก็บรวบรวมหรือนำภาพและข้อมูลที่อยู่ในภาพเหล่านี้ ซึ่งถูกอัปโหลดผ่านแอพฯ Canon Camera Connect ไปใช้ประโยชน์แต่อย่างใด

** รองรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชั่น4.0/4.1/4.2/4.3/4.4/5.0/5.1

 

ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรง กันฝุ่นและทนทานต่อสภาพอากาศ เพื่อการใช้งานทุกสถานการณ์

สำหรับช่างภาพอาชีพที่ต้องการอุปกรณ์ที่ดีที่สุด EOS-1D X Mark II ได้รับการออกแบบให้ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมทุกเวลา แม้ในสถานการณ์สุ่มเสี่ยง บอดี้ของกล้องทำจากแมกนีเซียมอัลลอยที่แข็งแรงทนทานเพื่อการใช้งานอย่างสมบุกสมบัน จับถือได้ง่ายไม่เมื่อยมือ ม่านชัตเตอร์ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา ถ่ายภาพได้ 16 ภาพต่อวินาที ใช้งานได้มากถึง 400,000 ครั้ง ตัวกล้อง EOS-1D X Mark II และอุปกรณ์เสริม เช่น อุปกรณ์ส่งข้อมูลไร้สาย WFT-E8A มีการป้องกันอย่างครอบคลุมเพื่อให้กันน้ำและฝุ่นได้ดียิ่งขึ้นแม้ในบริเวณรอยต่อ