อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ เปิดตัวโซลูชันระบบไร้สายมาตรฐาน 802.11ac รองรับแนวคิดสำนักงานล้ำยุค พร้อมด้วยเทคโนโลยีใหม่ “ ไคลเอนท์แมช” ที่ช่วยแก้ปัญหาเครื่องลูกข่ายที่ยึดติดกับจุดกระจายสัญญาณใดหนึ่งโดยเฉพาะ เพิ่มความมั่นใจเรื่องประสิทธิภาพสูงสุดและให้ความน่าเชื่อถือในการใช้งานอุปกรณ์และแอพพลิเคชัน
อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ (NASDAQ:ARUN) ผู้นำโซลูชั่นระบบควบคุม การใช้งานเครือข่ายล้ำยุคสำหรับองค์กรโมบาย เปิดตัวโซลูชันหลักบนมาตรฐาน 802.11ac ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมที่มีการนำเสนออุปกรณ์เครือข่ายไร้สาย ไวไฟ ความเร็วระดับกิกะบิต (Gigabit WiFi) ที่ผสานรวมความสามารถของเครือข่ายไร้สายในปัจจุบันไว้ด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นการรองรับการใช้อุปกรณ์จำนวนมากและจัดการการใช้แอพพลิเคชันได้อย่างชาญฉลาด ด้วยการแนะนำอุปกรณ์กระจายสัญญาณ หรือ แอคเซสพอยต์ (Access Points, APs) รุ่นใหม่ในตระกูล Aruba 220 Series ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ของอรูบ้า ในชื่อ ไคลเอนท์เมช (ClientMatch) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการสำคัญขององค์กรในการสร้างสถานที่ทำงานแบบล้ำยุค
นายประคุณ เลาหกิตติกุล ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท อรูบ้า เน็ตเวิร์คส์ อิงค์ เปิดเผยว่า ทุกวันนี้แผนกไอทีขององค์กรถูกท้าทายด้วยเรื่องของอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเข้าสู่เครือข่ายมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีการใช้อุปกรณ์กันอย่างคับคั่ง ซึ่งทั้งสองปัจจัยนี้ ล้วนส่งผลให้ระบบไวไฟ ไม่สามารถรองรับการใช้งานได้เพียงพอ นอกจากนั้นผู้ดูแลระบบไอทียังต้องเผชิญกับปัญหาเครื่องลูกข่ายหรืออุปกรณ์ที่ “ยึดติด” อยู่กับจุดเชื่อมต่อสัญญาณจุดใดจุดหนึ่ง โดยไม่สามารถต่อเชื่อมหรือเลือกจุดกระจายสัญญาณที่ดีที่สุดได้โดยอัตโนมัติ ส่งผลให้เกิดความล่าช้าในการใช้งานและเชื่อมต่อไม่เสถียรหาความแน่นอนไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือ แอพพลิเคชันสำคัญทางธุรกิจเช่น ระบบประสานการทำงานและการสื่อสารร่วมกันในแบบเรียลไทม์ (Real-time Unified Communications and Collaboration, UCC) มักจะถูกเข้ารหัสไว้และไม่สามารถถูกจัดระเบียบได้บนเครือข่ายไร้สายแบบไวไฟ ทำให้แทบ จะมองไม่เห็นหรือไม่สามารถให้คุณภาพการบริการในระดับที่สูงได้ การนำเอามาตรฐาน 802.11ac ซึ่งถูกออกแบบ มาให้มีความเร็วและความสามารถที่ดีกว่าเครือข่ายแบบ 802.11n แต่ถ้าไม่มีวิธีการจัดการอุปกรณ์ที่ต่อเชื่อมเข้ามา ได้ดีกว่าก็จะทำให้เครือข่ายมาตรฐาน 802.11ac นั้นไม่มีความแตกต่างจากการเชื่อมต่อบนเครือข่ายมาตรฐาน 802.11n
โซลูชัน 802.11ac ของอรูบ้า ช่วยแก้ปัญหาเรื่องของความหนาแน่น รวมถึงประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือในการใช้งาน ทั้งนี้เทคโนโลยี Aruba ClientMatch ช่วยให้เครื่องลูกข่ายที่มักจะ “ยึดติด” กับจุดเชื่อมต่อเดียว หรือ “Sticky” Clients สามารถเชื่อมต่อกับจุดกระจายสัญญาณที่ดีที่สุดได้ตลอดเวลา เวลาที่ขอใช้สัญญาณผ่านเครือข่ายแลนไร้สายของอรูบ้า (Aruba wireless LAN, WLAN) ทำให้มั่นใจว่าสามารถใช้งานของอุปกรณ์ โมบายทั้งหมดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในการทดสอบเปรียบเทียบประสิทธิภาพการทำงาน ระบบเครือข่ายไร้สาย ของอรูบ้าที่มี ClientMatch ช่วยให้ใช้อุปกรณ์ได้มีประสิทธิภาพสูงถึงกว่า 94% เมื่อเทียบกับระบบเครือข่ายไร้สายของผู้จำหน่าย รายอื่น ยิ่งไปกว่านั้นก็คือ เมื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์กระจายสัญญาณตระกูล Aruba 220 Series ที่มี ClientMatch และเทคโนโลยีที่ให้ความสามารถในการเห็นและจัดการแอพพลิเคชันที่ใช้งานอยู่บนเครือข่ายไร้สาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีเทคโนโลยีดังกล่าวช่วยตอบโจทย์การใช้งานร่วมกับระบบสื่อสารรวมแบบเรียลไทม์ (real-time UCC) อย่าง Microsoft Lync จึงช่วยให้องค์กรเอ็นเตอร์ไพร์สสามารถลดการใช้เครือข่ายแลนลงไปได้ และลดการใช้งานหัวโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ และพอร์ตที่ต้องเชื่อมต่อลงได้ ผลลัพธ์ก็คือการเป็นสำนักงานล้ำยุคที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้และช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีลงได้มากถึง 76%
อุปกรณ์กระจายสัญญาณตระกูล Aruba 220 Series สร้างเพื่อรองรับการเปลี่ยนสู่มาตรฐาน 802.11ac ได้อย่างราบรื่น
อุปกรณ์กระจายสัญญาณตระกูล Aruba 220 Series ถูกสร้างมาเพื่อใช้งานกับมาตรฐาน 802.11ac ช่วยให้องค์กรเอ็นเตอร์ไพร์สประหยัดทั้งเรื่องของเวลาและค่าใช้จ่าย แตกต่างจากอุปกรณ์มาตรฐาน 802.11ac แบบทั่วไปที่ต้องต่อพ่วงเป็นลักษณะโมดูล โดย Aruba 220 Series มีคุณสมบัติการทำงานที่ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (power-efficient mode) นอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานร่วมกับระบบการจ่ายไฟมาตรฐานเดิมคือ 802.3af PoE เพียงแต่ปรับลดความเร็วลงตามปริมาณการจ่ายไฟ ทำให้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวสวิตซ์เครือข่ายทันทีทันใด ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการอัพเกรดระบบเครือข่ายแลนที่มารองรับระบบไร้สายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบและติดตั้งใหม่ ด้วยความเร็วในการใช้งานถึง 1.75 Gbps. (และสามารถเพิ่มสูงสุดถึง 1.9 Gbps. สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยี TurboQAM™ ของ Broadcom) อุปกรณ์ตระกูล 220 Series สามารถรองรับจำนวนการใช้งานของตัวอุปกรณ์ได้มากกว่า ช่วยแก้ปัญหาเรื่องของความสามารถในการรองรับจำนวนอุปกรณ์ซึ่งเป็นสิ่งที่มักจะพบเจอในการใช้งานระบบไอทีในองค์กรส่วนใหญ่ นอกจากนั้นอุปกรณ์ตระกูล 220 Series ยังสามารถควบรวมการเชื่อมต่อของสองพอร์ตอัพลิงก์เพื่อให้ได้ความเร็วสูงสุดในระดับกิกะบิตอีเธอร์เน็ตในการต่อเชื่อมกับเครือข่ายแลน ทั้งบนย่านความถี่แบบ 5GHz และ 2.4GHz บนความเร็วระดับกิกะบิตอย่างแท้จริง นอกจากนั้นอุปกรณ์ตระกูล 220 Series ยังเป็นอุปกรณ์กระจายสัญญาณที่มีขนาดเล็กว่าทั่วไปทำให้ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว โดดเด่นด้วยการนำเอาสัญญาณวิทยุทั้งสองคลื่นความถี่มาใช้ซึ่งดีกว่าระบบอื่นที่ใช้สามคลื่นความถี่ ในแง่ของค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า
ClientMatch เทคโนโลยีจดสิทธิบัตร ช่วยแก้ปัญหาการยึดติดของเครื่องลูกข่าย
อรูบ้า เป็นผู้จำหน่ายเพียงรายเดียวที่มีเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรแล้วในชื่อ ClientMatch Technology ช่วยแก้ปัญหา “เครื่องลูกข่ายที่ยึดติดกับจุดสัญญานเดิมเพียงจุดเดียว” (Sticky Client) ในเวลาที่ใช้งานเครือข่าย WiFi ทั้งบนมาตรฐาน 802.11ac และ 802.11n เนื่องจากปัญหาในเรื่องของวิธีการเชื่อมโยงการใช้งานเครือข่ายของอุปกรณ์ไร้สายที่ไม่มีประสิทธิภาพ ขาดการตรวจสอบในเรื่องของการกวนของคลื่นสัญญาณวิทยุและยังต้องต่อสู้กับอุปกรณ์ตัวอื่นๆ ที่ทำงานช้าในการพยายามยึดครองช่องสัญญาณการเชื่อมต่อนั้นไว้ ClientMatch จะเข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเครือข่าย WiFi ฝั่งเครื่องลูกข่าย ด้วยการเข้าไปควบคุมโครงข่ายระบบ WiFi และตัดสินใจ ในเรื่องของการเชื่อมต่อและเชื่อมโยงเครื่องลูกข่าย โดยที่โครงข่ายนั้นจะเสริมการทำงานตามมาตรฐานของ 802.11 ให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์จะถูกเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์กระจายสัญญาณที่ใกล้และใช้งานน้อยที่สุด เท่ากับว่าผู้ใช้จะถูกโอนการใช้งานไปยังอุปกรณ์กระจายสัญญาณตัวอื่นหรือเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงของคลื่นวิทยุ ClientMatch นั้นจะทำการรวบรวมตัวเลขประสิทธิภาพการทำงานแบบเรียลไทม์จากอุปกรณ์ไร้สาย และเฝ้าดูปัญหาในเรื่องของคลื่นความถี่ที่เกิดขึ้นบนอุปกรณ์กระจายสัญญาณแต่ละตัว ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะนำไปใช้ในการบังคับให้อุปกรณ์ไร้สายนั้นถูกเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์กระจายสัญญาณที่ดีที่สุด เพื่อมั่นใจได้ว่าเครื่องลูกข่ายทุกตัวจะได้ประโยชน์จากความเร็วและความสามารถในการรองรับเพิ่มขึ้นตามมาตรฐาน 802.11ac
ความสามารถในการมองเห็นและจัดการการใช้งานระบบเสียง วีดีโอและแอพพลิเคชันระบบสื่อสารรวมอย่าง Microsoft Lync ได้อย่างเหนือชั้น ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานแอพพลิเคชันที่ดีขึ้น
โซลูชันเครือข่ายไร้สายของอรูบ้า มาพร้อมความสามารถที่โดดเด่น ในเรื่องของการจัดการใช้งานแอพพลิเคชันระบบการสื่อสารและประสานการทำงานร่วมกับแบบเรียลไทม์ (real-time UCC application) อย่าง Microsoft Lync ซึ่งจะพบว่าจะมีการเข้ารหัส แต่เครือข่าย WiFi ทั่วไป ไม่สามารถแยกแยะออกได้ ทำให้ระบบไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญให้กับการส่งข้อมูลที่ต้องอาศัยความรวดเร็ว อย่างการสื่อสารด้วยเสียงหรือวีดีโอออกจากแอพพลิเคชันอื่นที่มีความสำคัญน้อยกว่า เพื่อแก้ปัญหาเรื่องแอพพลิเคชันสำคัญของระบบการสื่อสารดังกล่าว ระบบเครือข่ายไร้สายของอรูบ้า ยังได้ทำการควบรวมความสามารถในการนำเอา API สำหรับการลำดับคุณภาพการใช้งานกับข้อมูลที่เรียกว่า Lync Diagnostics API ของ Microsoft ผนวกเข้ากับข้อมูลที่ได้จากสถานะการทำงานของเครือข่าย ซึ่งข้อมูลที่ถูกตรวจสอบนั้นจะมีทั้งเรื่องของคุณภาพเสียงที่ถูกส่งผ่านเครือข่าย (Mean Opinion Score, MOS) เรื่องของคุณภาพการให้บริการบนเครือข่าย (Quality of Service, QoS) รวมถึงเรื่องคุณภาพของเชื่อมต่อเครือข่ายไร้สายของเครื่องลูกข่าย ณ เวลาที่มีการเรียกสาย ว่ามีเสียงรบกวนหรือล่าช้าหรือว่ามีส่วนของข้อมูลที่หายไปหรือไม่ และการระบุผู้เรียกและรับสายเทียบกับตัวเลขประจำอุปกรณ์ (MAC Address) และเลขที่อยู่ IP รูปแบบการเรียกสายไม่ว่าเป็นเสียงหรือวีดีโอและการใช้งานว่าได้โทรออกไปเมื่อใด ทั้งหมดจะถูกใช้ในการจัดการและตรวจสอบการเรียกสายจาก ต้นทางถึงปลายทาง และยังช่วยให้เปลี่ยนได้เร็วกว่าในกรณีของการระบุปลายทางผิดอีกทั้งยังช่วยให้ประสบการณ์การใช้งานโดยรวมดียิ่งขึ้น
นายเจมมี่ สตาร์ค ผู้จัดการแผนกการตลาดผลิตภัณฑ์ Lync จาก Microsoft กล่าวว่า “ผู้จัดการระบบสื่อสารและประสานการทำงานร่วมกัน (UCC) ต่างต้องการระบบที่ช่วยให้มองเห็นตั้งแต่ต้นถึงปลายทางในการวัดประสิทธิภาพการเรียกสายใช้งาน เพราะมีหลายปัญหาที่กระทบต่อคุณภาพการใช้งานที่ต้องรู้ที่มาได้อย่างรวดเร็ว” พร้อมกล่าวเสริมว่า “การทำงานร่วมกับระบบสร้างข้อมูลแบบเรียลไทม์และแยกระดับด้วย API ของ Microsoft ที่มีอยู่แล้วในชื่อ Lync Diagnostics API ช่วยให้สามารถดึงข้อมูลของเครือข่ายได้โดยตรงจากโครงข่ายระบบ WiFi อรูบ้า ช่วยชี้จุดของปัญหาด้านระบบสื่อสารที่กระทบต่อประสิทธิภาพการใช้งานระบบ Lync นอกจากนั้นโซลูชันนี้ยังช่วยให้มองเห็นประสิทธิภาพการทำงานของ Lync ทั้งบนเครือข่ายแบบมีสายและไร้สาย ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีสามารถระบุ แยกแยะและแก้ไขปัญหาของระบบจากต้นตอได้ในที่สุด”
ราคาและความพร้อมในการจำหน่าย
อุปกรณ์กระจายสัญญาณตระกูล Aruba 220 Series สามารถนำไปใช้งานร่วมกับระบบควบคุมการใช้งานระบบไร้สายเดิมของอรูบ้า (Mobility Controller) โดย Aruba 220 Series พร้อมวางตลาดในเดือนมิถุนายน 2556 ส่วนรุ่นที่ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้ระบบคอนโทรลเลอร์ (Aruba Instant) จะพร้อมวางตลาดในไตรมาสที่ 3 ของ ปี 2556 โดยในสหรัฐอเมริการาคาตั้งต้นที่ 1,295 ดอลลาร์ ส่วนระบบ ClientMatch และ Microsoft Lync Visibility พร้อมใช้งานในเดือนมิถุนายนซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของซอฟต์แวร์ใหม่ ArubaOS 6.3 โดยที่ ClientMatch จะสามารถอัพเกรดได้ฟรีสำหรับลูกค้าปัจจุบันของอรูบ้า ที่มีการลงนามในสัญญาบริการสนับสนุนการใช้งาน ส่วน Lync Visibility จะถูกผนวกเข้าไว้กับ Policy Enforcement Firewall (PEF) Module ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์เสริมสำหรับการใช้งานร่วมกับ ArubaOS พร้อมให้ใช้งานได้ทันทีโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายสำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อ PEF และลงนามในสัญญาบริการสนับสนุนการใช้งาน โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรฐาน 802.11ac และอุปกรณ์รุ่นใหม่ตระกูล Aruba 220 Series และ Aruba ClientMatch ได้ที่ www.arubanetworks.com/11ac