เนื้อหาวันที่ : 2016-09-28 15:47:11 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1867 views

กองบรรณาธิการ

 

 

ตำบลแสนสุข นำร่อง สมาร์ท ซิตี้ ลีฟวิ่ง จับมือ เดลล์ และอินเทล เปิดตัวโครงการดูแลสุขภาพด้วย อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ โครงการแรกของประเทศ (จากซ้ายไปขวา) ผศ.ดร.รัชนีภรณ์ ทรัพย์กรานนท์ ผู้รักษาการแทนรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยบูรพา นายสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข นายธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) ผศ.อภิเนตร อูนากูล ที่ปรึกษาคณะกรรมการศูนย์นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ

 

แสนสุข สมาร์ท ซิตี้ นำอินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (IoT) มาใช้ในโครงการนำร่องร่วมกับเดลล์, อินเทล และศูนย์นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ นำระบบอัจฉริยะมาติดตามดูแลคนไข้สูงอายุในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินกับคนไข้ อุปกรณ์สวมใส่ จะแจ้งเตือนไปยังบริการพยาบาลทันที การพิสูจน์แนวคิด พัฒนาเพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของโครงการนำร่อง และวางรากฐานสำหรับการนำแอพพลิเคชันอัจฉริยะอื่น ๆ รวมถึงโครงการสมาร์ทซิตี้ขนาดใหญ่มาใช้ต่อไป

 

     แสนสุข สมาร์ท ซิตี้ ซึ่งเป็นโครงการของเทศบาลตำบลแสนสุข ในประเทศไทย และกลายเป็นสมาร์ท ซิตี้ แห่งแรกในประเทศ เผยโฉมโครงการต้นแบบของจริงที่ได้มีการพิสูจน์แนวคิดหลากหลายรูปแบบว่าสามารถนำไปต่อยอดการใช้แอพพลิเคชันอัจฉริยะที่มีนวัตกรรมและเชื่อถือได้จริง สำหรับการดำเนินโครงการในระยะแรกก็คือ การติดตั้งระบบอัจฉริยะเพื่อการติดตามดูแลสุขภาพ โดยมุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงคุณภาพการดูแลประชากรสูงอายุที่อยู่ในพื้นที่ โดยโครงการนำร่องนี้เป็นการร่วมมือกับพันธมิตรเทคโนโลยี ได้แก่ เดลล์, อินเทล และศูนย์นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ ทั้งนี้โครงการดูแลสุขภาพด้วยระบบอัจฉริยะ หรือ สมาร์ท เฮลธ์แคร์นี้ นับเป็นโครงการแรกที่มีการติดตั้งใช้งานจริงในประเทศไทย

 

          ความริเริ่มของโครงการ แสนสุข สมาร์ท ซิตี้ เปิดตัวขึ้นในปี 2557 และเป็นโครงการนำร่องที่ใช้เวลา 3 ปี จัดทำโดยเทศบาลตำบลแสนสุข เพื่อนำเสนอสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความเป็นระบบอัจฉริยะแก่ชุมชนและนักท่องเที่ยว จากจำนวนประชากร 46,000 คนตามที่ระบุในทะเบียนผู้พักอาศัยในชุมชนแห่งนี้ 15% ของประชากรจำนวนดังกล่าวเป็นผู้สูงอายุ โดยหน่วยงานรัฐบาลในท้องที่ได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการดูแลผู้สูงอายุได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ผู้สูงอายุเหล่านี้มักจะอยู่บ้านคนเดียวในช่วงระหว่างวัน โดยมีผู้ดูแลน้อยหรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการพยาบาลอยู่น้อย โครงการนำร่องนี้ จึงเกิดขึ้นในเดือนมกราคม 2559 และมุ่งเป้าไปที่ 140 ครัวเรือนที่มีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุ โดยมุ่งเน้นที่การตรวจตราดูแลคนไข้พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อช่วยให้รัฐบาลจัดสรรทรัพยากรในการพยาบาลและดำเนินการเรื่องการบริการดูแลสุขภาพได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น  เรื่องนี้สำเร็จได้ด้วยแอพพลิเคชัน IoT ที่ช่วยด้านการตรวจดูสุขภาพ ให้การแจ้งเตือนฉุกเฉิน ตรวจจับสภาพแวดล้อม สอดส่องที่พักอาศัยและติดตามดูแลเพื่อความปลอดภัย

 

          “แสนสุข สมาร์ท ซิตี้ นำเทคโนโลยีล้ำหน้ามาช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้พักอาศัยดีขึ้น และช่วยให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น เราจึงเลือกทำงานกับเดลล์ และอินเทล ในช่วงเริ่มต้นที่เป็นระยะสำคัญในการพิสูจน์แนวคิด (Proofs-of-Concept) เนื่องจากทั้งสององค์กร เป็นผู้ที่มีผลงานด้านสมาร์ท ซิตี้ และเป็นองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือสูง โดยได้เคยสร้างโครงการ IoT ขนาดใหญ่ในเอเชียแปซิฟิกมาแล้วหลายโครงการ และเรารู้สึกยินดีที่ได้จัดทำโครงการในระยะแรกขึ้น พร้อมกับมั่นใจว่าโครงการในระยะถัดมาก็จะส่งผลลัพธ์ที่มีคุณค่าอย่างมากกับเมืองเราเช่นกัน” ณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเมืองแสนสุข กล่าว

 

          ผศ.อภิเนตร อูนากูล ที่ปรึกษาคณะกรรมการศูนย์นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ ซึ่งเป็นความริเริ่มของหน่วยงานภาครัฐวิสาหกิจโดยมีหน้าที่ให้การสนับสนุนภาครัฐและเอกชนเพื่อการพัฒนาสมาร์ท ซิตี้ กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างพันธมิตรหลายรายนี้ ไม่ใช่แค่การร่วมมือในเชิงกลยุทธ์ หากยังเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่ให้ประโยชน์อย่างยิ่ง เนื่องจากประเทศไทยต้องก้าวสู่วิสัยทัศน์ในการพัฒนาสู่ความเป็นประเทศดิจิทัล (Digital Thailand) สำหรับแสนสุข สมาร์ท ซิตี้ การสนับสนุนด้านเทคนิคจากเดลล์ และ อินเทล ช่วยให้การติดตั้งแพลตฟอร์มที่เป็นต้นแบบสำหรับสมาร์ท ซิตี้ ประสบความสำเร็จ ซึ่งจะเป็นใบเบิกทางไปสู่การนำ IoT ที่ล้ำหน้ามาใช้ได้มากขึ้น ครอบคลุมหลากหลายแง่มุมของการใช้ชีวิตสำหรับทั้งผู้พักอาศัยในชุมชนและนักท่องเที่ยว  สิ่งนี้นับเป็นย่างก้าวครั้งสำคัญต่อไปในการบรรลุเป้าหมายของการเปลี่ยนประเทศไทยเป็นสมาร์ท เนชั่น หรือประเทศอัจฉริยะในที่สุด” ทั้งนี้ ศูนย์นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ หรือ ICIC ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานชั้นนำอื่น ๆ ในการติดตั้งโครงการดังกล่าว ได้แก่ สมาคมสมองกลฝังตัวไทย (TESA–Thai Embedded Systems Association) มหาวิทยาลัยบูรพา BAESLab และ กสท. โทรคมนาคม

 

ระบบดูแลสุขภาพแบบอัจฉริยะ (Smart Healthcare) สำหรับผู้สูงอายุ

 

          โดยปกติ พยาบาลในเขตเทศบาล จะไปเยี่ยมผู้พักอาศัยที่เป็นผู้สูงอายุอยู่เป็นประจำ เนื่องจากเป็นส่วนหนึ่งของข้อผูกพันในการดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม พยาบาลก็ยังคงไม่สามารถดำเนินการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและเหมาะสมในระหว่างเกิดเหตุฉุกเฉิน เนื่องจากพยาบาลไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นเมื่อไหร่ หรือต้องดูแลทางการแพทย์ต่อด้วยวิธีใด ปัจจุบัน โครงการนำร่องนี้ ช่วยให้พยาบาลสามารถดูแลสอดส่องสุขภาพของคนไข้สูงอายุได้จากระยะไกลผ่านระบบคลาวด์ และระบบวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงการเชื่อมต่อบลูทูธ

 

          แพลตฟอร์ม IoT ที่ใช้เทคโนโลยีอินเทลเป็นฐาน ให้การเชื่อมต่อแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ ที่ปลอดภัยตั้งแต่เกตเวย์ตลอดจนอุปกรณ์และดาต้าเซ็นเตอร์ โดยโซลูชันจะช่วยให้ติดตั้งใช้งานจริงได้ง่ายขึ้น ปลอดภัยขึ้นและให้ความสามารถในการบริหารจัดการที่ดีขึ้น ในช่วงระยะแรกของโครงการนำร่องนี้ ผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุจะสวมใส่อุปกรณ์อัจฉริยะขนาดเล็กที่รับส่งสัญญาณบลูทูธได้ เช่น กำไลสวมข้อมือหรือสร้อยคอ โดยอุปกรณ์อัจฉริยะนี้ จะทำการสอดส่องจำนวนก้าว การเคลื่อนไหว ระยะทางในการเดิน และรูปแบบการนอนหลับ อีกทั้งสามารถแจ้งเตือนมายังผู้ดูแลในศูนย์ดูแลสุขภาพ เมื่อระบบตรวจจับกิจกรรมที่ไม่ปกติ เช่น การลื่นหกล้ม หรือมีการกดปุ่มฉุกเฉินขึ้น

 

          ระบบเกตเวย์อัจฉริยะจากเดลล์ ที่ใช้เทคโนโลยีอินเทลเป็นฐาน จะทำการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพขนาดใหญ่ที่อุปกรณ์อัจฉริยะทำการบันทึกเก็บไว้ทุกวัน โดยจะมีการติดตั้ง Dell IoT Gateway ไว้ที่บ้านพักของผู้ป่วย พร้อมกับติดตั้ง Dell Edge Gateway 5000 Series ในรุ่นสำหรับใช้งานในอุตสาหกรรม ไว้ที่สถานพยาบาลด้วยเช่นกัน  เพื่อช่วยในการส่งข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องและมีความถูกต้องแม่นยำ ไปยังไพรเวทคลาวด์ของเดลล์ และส่งต่อไปยังสำนักงานใหญ่ของสถานพยาบาลในเขตเทศบาล ที่ซึ่งมีการแสดงข้อมูลอัพเดททั้งเมืองในแบบเรียลไทม์ พร้อมจัดเก็บข้อมูลไว้บนระบบ Converged System ของ Dell PowerEdge VRTX

 

          “การเข้าถึงประวัติการรักษาของคนไข้ และข้อมูลเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ประกอบวิชาชีพทางการแพทย์สามารถระบุความจำเป็นเร่งด่วนเฉพาะและแยกแยะวิธีการตอบสนองที่จำเป็นสำหรับกรณีการรักษาฉุกเฉิน โดยช่วยให้บริการพยาบาลในท้องที่ สามารถตอบโจทย์ท้าทายเรื่องบุคลากรด้านการดูแลที่มีอยู่จำกัด ขณะเดียวกันก็ยังสามารถตอบสนองความต้องการด้านการสนับสนุนที่เหมาะสมได้เร็วขึ้นมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาที่เกิดเหตุฉุกเฉิน” เออร์วิน เมเยอร์ ผู้จัดการทั่วไป เดลล์ โออีเอ็ม โซลูชัน ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคใต้ กล่าว

 

พลังประสาน จากโครงการนำร่อง

 

          หลังจากที่โครงการนำร่องเสร็จสิ้น ก็จะสามารถนำโซลูชันไปใช้กับแอพพลิเคชันสมาร์ท ซิตี้ อื่น ๆ ต่อได้ เช่นกิจกรรมในการบำรุงรักษาและปรับปรุงด้านความปลอดภัยในที่สาธารณะ และท้ายที่สุดก็จะทำให้แสนสุขกลายเป็นสถานที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น ค่าใช้จ่ายที่ประหยัดได้จากโครงการ IoT เพื่อการดูแลสุขภาพ จะถูกเก็บไว้ใช้สำหรับโปรแกรมอื่น ๆ ของแสนสุข สมาร์ท ซิตี้ เช่นระบบสารสนเทศสำหรับนักท่องเที่ยวบนโมบายแอพฯ ซึ่งจะแจ้งเตือนการจัดงาน บริการต่าง ๆ รวมถึงข้อมูลอื่นที่น่าสนใจให้แก่นักท่องเที่ยว

 

          “โครงการนำร่องนี้ เป็นการพิสูจน์ว่าเทคโนโลยีใหม่สามารถหลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิตของผู้ที่พักอาศัยในชุมชมได้อย่างกลมกลืน ให้ประโยชน์แก่ทั้งเมืองและชุมชน สถาปัตยกรรมโซลูชันที่เสร็จสมบูรณ์ของโครงการนี้ จะกลายเป็นต้นแบบในอุดมคติสำหรับโปรแกรมสมาร์ท ซิตี้อื่น ๆ ไม่ใช่แค่ แสนสุข แต่รวมถึงสมาร์ท ซิตี้ ในประเทศไทย และทั่วโลก” นายณรงค์ชัย กล่าว

 

          “ขั้นตอนเริ่มต้นเหล่านี้ ที่มุ่งสู่การดูแลสุขภาพใน แสนสุข สมาร์ท ซิตี้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นับเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าเทศบาลเมืองแสนสุข ได้มีการวางกลยุทธ์ไปข้างหน้า โดยโครงการนี้เป็นกรณีการใช้งานจริงที่พลิกโฉมการนำเสนอประโยชน์ใหม่อันเป็นผลมาจากการใช้เทคโนโลยีแบบผสมผสาน เช่น คลาวด์ ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ และ อินเทอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ เป็นส่วนใหญ่ในการติดตั้งเพื่อใช้งานโครงการ  เรามีความยินดีที่ได้ร่วมนำเสนอความเชี่ยวชาญของเราจากการดำเนินโครงการสมาร์ท ซิตี้ อื่นๆ มาแล้วทั่วโลก รวมถึงความเชี่ยวชาญจากการทำงานให้กับสถาบันดูแลสุขภาพมากมาย” ธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) กล่าว

 

          ทางด้าน สนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อินเทล รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รับโอกาสร่วมทำงานกับเทศบาลตำบลแสนสุข ศูนย์นวัตกรรมเมืองอัจฉริยะ และ เดลล์ ในการช่วยให้แสนสุข เข้าใจถึงโครงการดูแลสุขภาพแบบอัจฉริยะเป็นโครงการแรกในประเทศไทย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสู่การเปลี่ยนโฉมไปสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะ ความร่วมมือในครั้งนี้สร้างโมเดลใหม่สำหรับการนำโซลูชันแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์  มาใช้งานได้อย่างเหมาะสมและตรงต่อความต้องการที่แตกต่างกันไปในแต่ละเมือง โครงการนำร่อง แสนสุข นี้เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเมืองอื่น ๆ ในประเทศไทย และเราก็หวังถึงความสำเร็จที่มากยิ่งขึ้นในการนำเทคโนโลยี IoT มาประยุกต์ใช้เพื่อเสริมแกร่งวิสัยทัศน์สู่ดิจิทัล ไทยแลนด์”

  

 

นายสนธิญา หนูจีนเส้ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด

และ นายธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย เดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย

 

 

สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 www.thailandindustry.com
Copyright (C) 2009 www.thailandindustry.com All rights reserved.

ขอสงวนสิทธิ์ ข้อมูล เนื้อหา บทความ และรูปภาพ (ในส่วนที่ทำขึ้นเอง) ทั้งหมดที่ปรากฎอยู่ในเว็บไซต์ www.thailandindustry.com ห้ามมิให้บุคคลใด คัดลอก หรือ ทำสำเนา หรือ ดัดแปลง ข้อความหรือบทความใดๆ ของเว็บไซต์ หากผู้ใดละเมิด ไม่ว่าการลอกเลียน หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของบทความนี้ไปใช้ ดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดี ตามที่กฏหมายบัญญัติไว้สูงสุด